พบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มรายที่2 ขณะที่ทางจังหวัดเพิ่มมาตรการเข้ม สั่งล็อคดาวน์พื้นที่เสี่ยง2ชุมชนในเขตเทศบาลเมือง

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ยังมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง มียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกวัน วันนี้มียอดเพิ่มขึ้นอีก 10 ราย รวมยอดสะสมอยู่ที่ 144 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่สอง เป็นผู้สูงอายุเพศชาย อายุ 93 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ได้รับเชื้อมาจากบุคคลในบ้าน หลังจากนั้นก็มีไข้ ไอมีเสมหะ หายใจเหนื่อยไปหาหมอที่โรงพยาบาลป่าบอน ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตะโหมด และโรงพยาบาลพัทลุง และเสียชีวิตลงเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 เม.ย.64 ที่ผ่านมา

นพ.จรุง บุญกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง เล่าว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวคือ วัณโรค และความดันโลหิตสูง ทำให้ปอดอักเสบ มีอาการหอบเหนื่อยง่าย เกิดภาวะหลอดลมอุดตันเรื้อรัง บวกกับเป็นผู้ป่วยมีอายุเยอะ ทำให้อาการทรุดเร็วจนกระทั่งเสียชีวิตลง นอกจากนี้ยังมีบุคคลในครอบครัวของผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกสาว ยังคงเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพัทลุงด้วยอีกหนึ่งคน ส่วนร่างของผู้ตายทางญาติได้นำไปเผาแล้วเมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน ในพื้นที่ ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ท่ามกลางญาติที่มาร่วมอาลัยประมาณ 10 คนเท่านั้น

ล่าสุดวันนี้ทางจังหวัดได้เพิ่มมาตรการเข้ม ออกประกาศ ฉบับที่ 24 ปิดสถานที่เสี่ยง ต่อการแพร่ระบาดโรคแบบกลุ่มก้อนเพิ่มเติม เช่น สถานที่แสดงมหรสพ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ และโรงละคร รวมถึงร้านสะดวกซื้อและร้านค้าอื่นๆ สามารถเปิดได้ตั้งแต่เวลา 05.00- 24.00 น. นอกจากนั้นยังให้อำนาจแต่ละอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นแต่ละแห่ง จัดการดูแลใช้มาตรการล็อคดาวน์พื้นที่เสี่ยงได้ตามความเหมาะสม หากพบในชุมชน หรือ หมู่บ้านนั้นๆมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้มี 2 ชุมชนแรกคือ ชุมชนบ้านหน้าท่าเรือ และชุมชนหน้าเขาอกทะลุ ภายในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ที่กำลังจัดการล็อคดาวน์ชุมชน เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยแล้ว จำนวน 15 ราย และหากพื้นที่ไหนมีการล็อคดาวน์แล้วต้องมีมาตรเข้มห้ามบุคคลในพื้นที่เข้า-ออกอย่างเด็ดขาดเป็นเวลา 14 วัน

แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองพัทลุงลงพื้นที่ ก็เกิดความวุ่นวายเล็กน้อยเนื่องจากชาวบ้านในชุมชนบางส่วนไม่พอใจ เพราะเกิดความเข้าใจผิดพลาดกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งเข้ามาพูดคุย สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านทั้งสองชุมชนนานเกือบ 2 ชั่วโมง จนสามารถตกลงกันได้ด้วยดี พร้อมตั้งจุดตรวจ/คัดกรองบุคคลเข้า-ออกเข้ม2 จุด ด้วยกันคือ จุดที่1 บริเวณ สามแยกปากทางเข้าภูเขาอกทะลุ และจุดที่ 2 บริเวณสามแยกถนนเจริญดิษฐ์อินทร์ เป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่ วันที่ 28 เม.ย.64 ถึงวันที่ 11 พ.ค.64 นี้.