พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หรือ พระพุทธเจ้าหลวง แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้ทรงอุทิศให้กับภารกิจของบ้านเมือง ทั้งด้านการเมือง การปกครอง การพัฒนาประเทศอย่างอเนกประการ พระองค์ได้ทรงสอดส่องดูแลทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์อย่างใกล้ชิด ดังเห็นได้จากการเสด็จประพาสต้นและการเสด็จประพาสหัวเมืองอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะหัวเมืองปักษ์ใต้ตลอดแหลมมลายู ในปีพุทธศักราช 2432 อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ได้เสด็จประพาสหัวเมืองภาคใต้ตลอดแหลมมลายูครั้งนั้นได้เสด็จเกาะสี่เกาะห้าดังข้อความที่ปรากฏในพระหัตถเลขา จดหมายเหตุเสด็จประพาสแหลมมลายู ร.ศ. 108 ดังนี้
วันที่ 22 กรกฎาคม ออกจากเมืองสงขลา ผ่านปากจ่า เกาะญวน ปากพะยูน เกาะปราบ ถึงเกาะรังนก (เกาะสี่เกาะห้า) ประทับแรมพลับพลาที่ประทับบนเกาะมวย
วันที่ 23 กรกฎาคม ประพาสหน้าพลับพลาและถ้ำใหญ่ ถ้ำพระ ถ้ำยูหลี ถ้ำแรงวัว ถ้ำลูซิม บนเกาะดำ แล้วไปถ้ำเสือ ถ้ำแรดท้ายเกาะมวย ทอดพระเนตรเกาะเข็ม
วันที่ 24 กรกฎาคม จารึกอักษร จ.ป.ร. และศักราช 108 ไว้ที่หน้าผาเทวดาแล้วเสด็จขึ้น เขาชันซึ่งเป็นเกาะใหญ่อยู่หลังเกาะสี่เกาะห้า มีการไล่จง รุ่งขึ้นเสด็จไปพัทลุง
วันที่ 25 – 26 กรกฎาคม เสด็จเมืองพัทลุง
วันที่ 27 กรกฎาคม จากเมืองพัทลุงถึงเกาะสี่เกาะห้า ประทับแรม
วันที่ 28 กรกฎาคม ออกจากเกาะสี่เกาะห้าถึงเมืองสงขลา
จากการเสด็จประพาสครั้งนั้น จึงถือเป็นปีสำคัญสำหรับเมืองพัทลุง ถือเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การจดจำไว้อย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้ทรงเสด็จเยี่ยมพสกนิกรไพร่ฟ้าของแผ่นดินถึงถิ่นเมืองพัทลุง ที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงมาก และการเสด็จประพาสหัวเมืองภาคใต้เต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะการคมนาคมไม่สะดวกเช่นทุกวันนี้