เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.พัทลุง แพทย์เวรและ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณริมถนนสายเอเชียฝั่งขาล่องใต้ ตรงจุดหัวสะพานคลองลำเบ็ด ในพื้นที่ ม.12 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ คอ นายภาสกร ดำสนิท อายุ 21 ปี และนาย อรรถกร นุ่นปาน อายุ 24 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพรุนทั้งตัว นอนเสียชีวิตอยู่ตรงเบาะหลังคนขับ ภายในรถยนต์เก๋งโตโยต้า อัลทิส สีดำ ป้ายทะเบียน 3กล-6280 กทม.

สภาพรถมีร่องรอยกระสุนกว่า 20 นัด
และจากการตรวจสอบ ภายในตัวผู้ตายทั้ง 2 ราย พบอาวุธปืนลูกซองพกสั้น จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด ยาเสพติดชนิดยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากที่มีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกยิงถล่มกันใจกลางเมืองเมื่อช่วงเวลา 02.00 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบนถนนราเมศวร์ หน้าธนาคาร ธกส.สาขาท่ามิหรำ ซึ่งจุดนั้นเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อ คือ นายรัตนพงษ์ จันทร์ปาน อายุ 38 ปี เป็นคนในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง และคาดว่าเป็นคนขับรถยนต์เก๋งโตโยต้า อัลทิส สีดำ ป้ายทะเบียน 3กล-6280 กทม. ทีพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จุดเกิดเหตุจุดแรก กับจุดที่สองห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร

และในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่างเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเร่งดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งในจุดเกิดเหตุจุดแรก และตามเส้นทางก่อนที่จะพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ส่วนปมความขัดแย้งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งปมความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ กับกลุ่มผู้ตาย
และในเวลา 10.00น.วันนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 จะเดินทางลงที่เกิดเหตุ พร้อมเรียกชุดสืบสวนทั้งหมดประชุมติดตามความคืบหน้าต่อไป.

โควิด19 ทำพิษ ส่งผลให้การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติในปีนี้ ซึ่งจังหวัดตราดเป็นเจ้าภาพ เดิมมีกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 19-29 มีนาคม 2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ ล่าสุดมีข้อสรุปเลื่อนไปแข่งปีหน้า

การประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 “ช้างขาวเกมส์” ครั้งที่ 4/2563 ในวันศุกร์ที่3 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมพลอยแดง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดตราด เพื่อหาข้อสรุปกำหนดระยะเวลาจัดการแข่งขัน ฯ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคร่วมกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 (พ.ศ.2563) “ช้างขาวเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “ตราดเกมส์”

มติที่ประชุมเห็นชอบให้จังหวัดตราดจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 (พ.ศ.2564) “ช้างขาวเกมส์” ระหว่างวันที่ 18–28 เมษายน 2564 และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “ตราดเกมส์ ”ระหว่างวันที่ 5–11 พฤษภาคม 2564

ในส่วนของจังหวัดพัทลุง ซึ่งเดิมมีกำหนดการเป็นเจ้าภาพต่อจากจังหวัดตราด และมีกำหนดการณ์เดิมที่จะจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 21-31 มีนาคม 2564 จึงอาจต้องมีการเลื่อนการแข่งขันเช่นกัน ทั้งนี้จะมีการหาข้อสรุปอีกครั้งในภายหลัง

ที่มา : การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดพัทลุง

#ที่นี่พัทลุง : บอกข่าว เล่าเรื่อง คนเมืองลุง

มอบตัวแล้ว คนร้ายก่อเหตุยิงชาวประมงเสียชีวิตขณะออกหาปลากลางทะเล อ้างผู้ตายแอบนำเครื่องมือหาปลาไปวางในซั้งปลาตัวเอง

เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.นายวรวิทย์ หรือปุ้ย ขุนต่างตา อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุยิงนายศิริ นุ้ยสุด อาย57 ปีเสียชีวิตขณะออกเรือหาปลากลางทะเลเมื่อวานนี้ ล่าสุดได้ติดต่อประสานเพื่อเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำปำ พร้อมอาวุธปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ
เบื้องต้นทางผู้ก่อเหตุยอมรับว่า ได้ลงมือก่อเหตุยิงนายศิริฯ ผู้ตายจริง

โดยอ้างว่า โกรธแค้นที่ผู้ตายนำเครื่องมือหาปลามาวางหาปลาในจุดที่ตนได้ล้อมคอกทำซั้งปลาเอาไว้ พอตนเข้าไปพูดคุยก็โดนผู้ตายพูดจาท้าทาย และเกิดโต้เถียงกัน จนเกิดอารมณ์โมโห จึงได้ขับเรือกลับบ้านมาเอาอาวุธปืนไปก่อเหตุยิงนายศิริฯ ผู้ตายจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุก็ทราบว่าเป็นอาวุธปืนของพ่อตัวเองนั่นเอง

พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ศรีหร่าย สว.สภ.ลำปำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เร่งลงพื้นที่บริเวณชายหาดลำปำ หลังได้รับแจ้งจากหน่วยเรือลาดตระเวนของกู้ภัยพัทลุง ที่ขับเรือออกลาดตระเวนตั้งแต่เช้าตรู่ ว่าได้พบร่างของนาย ศิริ นุ้ยสุด อายุ 57 ปี ชาวประมงที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะออกเรือหาปลา ในสภาพศพลอยคว่ำหน้าเริ่มขึ้นอืด ห่างออกไปจากฝั่งเกือบ 2 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่คาดว่าน่าจะถูกยิงไปเมื่อวานนี้ประมาณ 300 เมตร

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ก็ได้ช่วยกันนำร่างของผู้ตายขึ้นฝั่งบริเวณชายหาดแสนสุขลำปำ ท่ามกลางไทยมุงและญาติๆที่เฝ้าติดตามเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก

จากสภาพศพพบบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ จำนวน 6 แผล และแขนขวา นอกจากนี้บริเวณแขนด้านขวา ยังพบร่องรอยแผลฉีกขาดอีกหลายแผลอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลพัทลุงอย่างละเอียดอีกครั้ง

ในส่วนของผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบเบาะแสกลุ่มคนร้ายแล้ว และกำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพื่อหามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุสลดในครั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้ตายกับกลุ่มคนก่อเหตุ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าน่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุดในวันสองวันนี้.

• 

• 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง พร้อมด้วยนักประดาน้ำ ของ อบจ.พัทลุง และนักประดาน้ำจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ทั้งในพื้นที่ จ.ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และ จ.สตูล ร่วมกันเร่งค้นหาร่างของนาย ศิริ นุ้ยสุด อายุ 57 ปี ชาวประมงในพื้นที่ บ้านสวน ม.10 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง ซึ่งถูกยิงขณะออกเรือหาปลาตั้งแต่ช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา บริเวณหาดแสนสุขลำปำ ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง จนกระทั่งตอนนี้ผ่านไปนับ 10 ชั่วโมง ก็ยังไร้วี่แววว่าจะพบร่างของนายศิริฯ ผู้สูญหายแต่อย่างใด

และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุไปสอบสวน พร้อมนำมาชี้จุดที่เกิดเหตุ เพื่อจำกัดวงแคบในการค้นหาร่างของผู้สูญหาย จุดเกิดเหตุอยู่ห่างออกไปจากฝั่งประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร ระดับความลึกของน้ำอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 2.50 เมตร แต่อุปสรรคในการค้นหาร่างผู้สูญหาย เกิดจากกระแสลมเปลี่ยนทิศทาง และปัญหาจากน้ำในบริเวณดังกล่าวมีสีขุ่นมาก ทำให้การมองหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับในช่วงเย็นในทะเลสาบมีคลื่นลมแรง ทำให้นักประดาน้ำต้องยุติการค้นหาชั่วคราว แต่หากคืนนี้กระแสลมไม่แรง ทางนักประดาน้ำทั้งหมด

• 

• 

ก็จะเร่งลงมือค้นหากันอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
บรรยากาศล่าสุดในช่วงเย็น บริเวณชายหาดแสนสุขลำปำ ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพัทลุง ได้นำเต็นท์ และไฟส่องสว่างมาติดเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำการของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและนักประดาน้ำ พร้อมจัดเตรียมอาหารกล่องสำเร็จรูปไว้คอยบริการเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติภารกิจทั้งหมดแล้วด้วย

ในส่วนทางญาติๆและชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างก็เดินทางมาคอยเฝ้าติดตามการค้นหา พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติภารกิจ อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายตลอดทั้งวันที่ผ่านมา.

• 

• 

• 

ทีมข่าว #ที่นี่พัทลุง

ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง พร้อมด้วยนักประดาน้ำ ของ อบจ.พัทลุง เร่งค้นหาร่างของนาย ศิริ นุ้ยสุด อายุ 57ปี ชาวประมงในพื้นที่ บ้านสวน ม.10 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง ถูกยิงขณะออกเรือหาปลาตั้งแต่ช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา

จากการสอบถามชาวบ้านในจุดเกิดเหตุ ทราบว่า ช่วงเช้าขณะที่ตนกำลังออกมาวิ่งกำลังกายริมเลลำปำอยู่นั้น ได้เห็นเรือขับอยู่กลางทะเล จำนวน 2ลำ ซึ่งห่างจากฝั่งไปประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังขึ้น 3ครั้ง แล้วสังเกตุเห็นเรือลำหนึ่งวิ่งออกแยกไป ส่วนเรืออีกลำลอยลำอยู่แต่ไม่มีคนอยู่บนเรือแล้ว ตนเห็นผิดสังเกตุจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

และหลังจากเจ้าหน้าที่ ตร.เข้าตรวจสอบและนำเรือลำดังกล่าวขึ้นฝั่ง พบคราบเลือดบนเรือลำดังกล่าว

จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.พัทลุง เข้าเก็บหลักฐานบนเรือเพิ่มเติมต่อไป
ล่าสุด บริเวณริมชายหาดลำปำ มีญาติๆของนายศิริฯ ผู้สูญหาย ชาวบ้านที่ต่างเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่กำลังปฏิบัติการ ค้นหาร่างผู้สูญหายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ผ่านไปแล้ว 5 ชั่วโมงก็ยังไม่เจอร่างของนายศิริฯ แต่อย่างใด และขณะนี้ได้มีการประสานนักประดาน้ำจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง อย่าง นักประดาน้ำจากสยามร่วมใจปู่อินทร์ จากจังหวัดนครศรีธรรมราช นักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลศรัทธา จาก จ.สุราษฎร์ธานี นักประดาน้ำกู้ภัยร่มไทร จ.สตูล และนักประดาน้ำจาก มูลนิธิกุศลสถานตรัง กำลังเดินทางมาสมทบในค้นหาร่างในครั้งนี้ด้วย

ทางด้าน นางจันทร์ดับ นุ้ยสุด อายุ 54ปี ภรรยาของผู้สูญหาย ได้เล่าให้ฟังว่า นายศิริฯได้ออกเรือหาปลามาตั้งแต่เวลาตี3หัวรุ่งที่ผ่านมา โดยตนได้จัดการข้าวคดข้าวห่อให้สามีเพื่อมากินในเรือระหว่างออกหาปลา ซึ่งสามีก็ไม่ได้บ่นหรือพูดอะไรให้ฟัง ว่ามีปัญหาอะไร หรือกับใครที่ไหน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าสามีถูกยิงและจมน้ำสูญหายไปเมื่อช่วงเช้า ซึ่งตนและครอบครัวก็ภาวนาให้พบร่างของนายศิริฯ โดยเร็ว พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติทุกคนด้วยเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 พัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และเจ้าพนักงาน กก.๖ บก.ปทส. สนธิกำลังร่วมกันตรวจค้น จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ได้ 3 รายพร้อมของกลางยาเสพติดและอาวุธปืนอีกหลายรายการ

ผู้ต้องหา 3 รายได้แก่ นายสมเกียรติ หรือไก่ มัจฉาเชี่ยว อายุ 25ปี เป็นคนพื้นที่ ต.กระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ถูกรวบได้คาบ้านเช่า ในชุมชนบ้านดอนรุน ถ.ดอนรุน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 90 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนขนาด .38 มม. จำนวน 1 นัด
ก่อนสอบสวนขยายผลต่อเนื่องไปยังในพื้นที่ ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จนกระทั่งสามารถจับกุม นายนราธิป หรือเหลี้ยม อิสระทะ อายุ 35 ปี และนายณัฐวุฒิ หรือแจ๊ป ด้วงคง อายุ 24 ปี ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 55 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักรวม 2.85 กรัม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พานิชย์จังหวัดพัทลุง จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการค้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Commerce) เพิ่มศักยภาพทางการค้า
วันนี้ ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมศิวา รอยัล อำเภอเมืองพัทลุง นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานเปิดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการค้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Commerce) ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพัทลุงได้จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและกลุ่มผู้สนใจในท้องถิ่นให้สามารถทำการค้าทางออนไลน์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทางการค้าทางออนไลน์

นายบรมัตถ์พงษ์ พลเยี่ยม พานิชย์จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจการค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพัทลุง จึงได้จัดโครงการส่งเสริมพัฒนา ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์สินค้าภายใต้แบรนด์จังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ การอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการค้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ(Mobile Commerce) และการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและเจรจาธุรกิจการค้าเพื่อส่งเสริม และพัฒนาเครือข่ายสินค้าแบรนด์จังหวัดและสินค้าเครื่องหมายรับรองอื่นๆ โดยมีผู้ประกอบการและกลุ่มผู้สนใจ จากกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน 11 จังหวัด เข้าร่วมกว่า100 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเขตพื้นที่ อ.เขาชัยสน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนต้นไม้ เหตุเกิดริมถนนสายเอเชียฝั่งขาขึ้น ในพื้นที่ ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จุดดังกล่าวยังเป็นช่วงโค้งถนน

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ โตโยต้า ไมตี้เอ็กสีเขียว ป้ายทะเบียน บล-9105 นครศรีธรรมราช ชนอัดก็อบปี้ติดอยู่กับต้นไม้ริมทาง ในสภาพด้านหน้าพังยับ บริเวณที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่พบร่างของ นายจรัล หมานมุ้ย อายุ 44 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุร่างกระเด็นออกมานอกตัวรถ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกำลังเดินทางกลับบ้านพักในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง คนขับอาจจะหลับใน จนเป็นเหตุให้รถเกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ริมทาง จนเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ก็จะส่งศพผู้ตายไปชันสูตรเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลเขาชัยสน เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีนครินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง แพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบบริเวณถนนสาย คลองลำ-ทุ่งนาชี พื้นที่ ม.1 ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง หลังได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถ จยย.ถูกเฉี่ยวชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต1ราย คนขับ ขับรถหลบหนี

และต้องกลายเป็นเรื่องเศร้า เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบเหล่าบรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิตนั่งกอดศพร้องไห้โฮ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ธมลวรรณ คำหลวงแว่น อายุ 19 ปี ใกล้กันพบรถจยย.ฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีน้ำเงิน กรม ป้ายทะเบียน 1กฉ-5143 พัทลุง จอดล้มอยู่สภาพช่วงหน้าพังยับเกือบทั้งคัน

จากการสอบถามแฟนของผู้เสียชีวิต ทราบว่า น.ส.ธมลวรรณ ฯ ผู้ตาย ได้ทำงานอยู่ในตัวเมืองพัทลุง และปกติจะเลิกงานเวลาประมาน 2 ทุ่ม ใช้เวลาประมาน ครึ่ง ชม.ในการเดินทางกลับบ้าน และก่อนที่จะเกิดเหตุ น้องก็ได้โทรหาตนบอกว่า “ตอนนี้ถึงปากทางหัวถนนท่านช่วยแล้วนะ” หลังจากนั้นอีกไม่ถึง 10 นาที ก็มีญาติมาบอกว่าน้องโดนรถชนเสียชีวิตแล้ว ตนและครอบครัวจึงรีบออกมาดู เมื่อมาถึงใจแทบสลาย เพราะตอนนี้ผู้ตาย กำลังตั้งท้องได้ 7 เดือนเศษ อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของผู้ตายอีกด้วย และที่สำคัญตนกับผู้ตายก็กำลังจะแต่งงานกัน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อติดตามรถคันก่อเหตุมารับทราบ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.