ชาวบ้านนอนรอรับบัตรคิวยื่นขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาวันสุดท้าย

ชาวบ้านในพื้นที่ จ.พัทลุง จำนวนมาก มานอนรอรับบัตรคิวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อยื่นแบบรับร้องทุกข์ขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาเงิน 5 พันบาทวันสุดท้าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ผิดหวังจากการลงทะเบียนรอบแรกและรอบอุทธรณ์ ต่างเข้าคิวทยอยพบเจ้าหน้าที่ แต่ชาวบ้านที่มาส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ ว่าจะได้รับเงินเยียวยาที่มีผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19


ซึ่งบรรยากาศล่าสุด ที่บริเวณหอประชุม ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ยังคงมีชาวบ้านมานั่งรอ นอนรอคิวที่ตั้งแต่เวลา ตี 4 ช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เพื่อรอรับรับบัตรคิวเป็นวันสุดท้าย ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรอบแรกและรอบอุทธรณ์ ในโครงการ “เราไมทิ้งกัน.com” ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อขอทบทวนสิทธิ์ตามาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ


ทางด้าน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่คลัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกครอง เข้ามาจัดระเบียบ บุคคลที่เข้ามาติดต่ออย่างเข้มงวด โดยเปิดช่องทางพิเศษประตูด้านข้างอาคารศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าตัวอาคาร นอกจานี้ยังมีการตรวจ วัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ และเว้นระยะห่างทางสังคม ตามมาตรการทุกอย่าง เพื่อป้องกัน และลดการติดเชื้อโควิด-19


และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่ผิดหวังจากการลงทะเบียนในระบบ“เราไมทิ้งกัน.com” จะพบว่าระบบยังยืนยันว่าเป็นเกษตรกร มีการลงทะเบียนไม่สำเร็จ เลขประจำตัวประชาชน 4 หลักท้ายไม่ถูกต้อง /ระบบไม่พบข้อมูลลงทะเบียน และอื่นๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกข้อมูลลงในแบบรับร้องทุกข์ ขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาเงิน 5พันบาท ใหม่ให้ เพื่อส่งไปยังกระทรวงการคลังดำเนินการต่อไป


ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ถึง“เงินดังกล่าวว่าจะได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่ตอบได้เพียงว่า “ รอส่วนกลางพิจารณา ” ทำให้ชาวบ้านที่มาทั้งหมดในวันนี้ ยังไม่มั่นใจว่าจะรับเงินเยียวยา 5พันบาทจากโครงการนี้หรือไม่ และต้องรอกันอย่างมีความหวังต่อไป.

เกษตรกรรับเงินเยียวยากลุ่มแรกกว่า 2พันคน ทยอยเบิกเงินจนแน่น ธ.ก.ส.

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพัทลุง มีชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกร ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์รับเงินเยียวยา มายืนเข้าแถวรอคิวเบิกเงินกันเป็นจำนวนมาก บางรายก็มีการนำสมุดฝากมาปรับดูยอดเงินก่อนก็มี ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ก็มีการวางตู้สำหรับปรับสมุดไว้ด้านหน้าธนาคาร โดยไม่ต้องหยิบบัตรคิว แต่มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ก่อนใช้บริการทุกครั้ง

ทางด้าน นายอมร นวลสนอง ผู้จัดการสาขาพัทลุง กล่าวว่า ในวันนี้ทาง ธ.ก.ส.สาขาพัทลุง ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน เพื่อไว้คอยบริการชาวบ้านที่มาใช้บริการที่ ธ.ก.ส.โดยเฉพาะชาวบ้านที่เป็นเกษตรกร ที่มาเบิก-ถอนเงินเยียวยาเกษตรกลุ่มแรกรายละ 5พันบาท ซึ่งเกษตรที่ได้รับสิทธิ์กลุ่มแรกเฉพาะสาขาพัทลุง มีมากถึง 2,017 ราย เริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 พ.ค.63นี้ ในวงเงินทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนการจัดการ เพื่อลดความแออัด ไม่ให้ชาวบ้านมารอคิวนาน ทาง ธ.ก.ส.ได้จัดเจ้าหน้าที่ สำหรับหยิบบัตรคิวให้ชาวบ้านที่มาติดต่อวันละ กว่า 300คิว สำหรับเกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยา แต่ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ต้องมีการเบิก-ถอนผ่านเจ้าหน้าที่ ที่ ธ.ก.ส.โดยตรงก็เตรียมคิวไว้ประมาณ 250คิว ต่อวัน ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาทำให้ชาวบ้านรอคิวนาน และลดการแออัดเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19


และนอกจากการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการแล้ว ทาง ธ.ก.ส.สาขาพัทลุง ยังมีบริการน้ำดื่มไว้คอยบริการชาวบ้านทุกคนที่มาติดต่อ ธ.ก.ส.อีกด้วย
ในส่วนของทางด้านกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า พวกตนต่างดีใจที่ได้รับเยียวยาช่วยเหลือเกษตร ขอบคุณทางรัฐบาลที่เข้าใจหัวอกเกษตรกร และหลังจากนี้พวกเขาก็นำเงินส่วนที่ได้ไปซื้อวัวต่อเติมคอก และ ต่อยอดผลผลิตทางเกษตรต่อไป.

จนท.บ้านพักเด็ก ร่วมกับนายอำเภอเขาชัยสน ลงพื้นที่ช่วยเหลือหญิงสาววัย 35 ปี ที่ไร้ที่อยู่ และได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19

นายกองตรี (ก.ต.)อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายอำเภอเขาชัยสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง ลงพื้นที่ไปยังครอบครัวหนึ่งที่อาศัยกันอยู่ จำนวน 7 ชีวิต ในเพิงพักหลังเล็กๆที่ผู้ใจบุญสร้างให้อยู่อาศัยชั่วคราว ในพื้นที่บ้านหลัก 42 ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ยังได้นำเครื่องอุปโภค บริโภคในครัวเรือน เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมัน ไข่ไก่ และของใช้เด็กอ่อน อย่าง นมผง และแพมเพิร์ส ไปมอบช่วยเหลือให้เบื้องต้นด้วย


นส.ปราณี พรมมา อายุ 35 ปี เล่าว่า ตน และสามี พร้อมลูกน้อยอีก 5 ชีวิต ไร้ที่อยู่อาศัย รับจ้างทำงานไปเรื่อยๆ แต่โชคดีที่ก่อนหน้านี้ มีผู้ใจบุญช่วยเหลือมาเช่าที่ สร้างเพิงพักเล็กๆ ให้ตนและครอบครัวได้อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วตนได้คลอดลูกคนเล็ก จนไม่สามารถออกทำงานรับจ้างได้เหมือนเดิม บวกกับเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สามีเองก็ต้องตกงาน รายได้แทบจะไม่มีเข้ามาเลย อาศัยปลูกผักสวนครัวข้างเพิงพักกินปะทังชีวิต และข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนบางส่วนก็มีผู้ใจบุญ ได้แวะเวียนมาช่วยเหลือบ้าง และล่าสุดมีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือดังกล่าว


ทางด้าน นายกองตรี (ก.ต.)อาญาสิทธิ์ ฯ นายอำเภอเขาชัยสน กล่าวว่า วันนี้ทางอำเภอก็ได้มีโอกาสได้มาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้ ซึ่งมีปัญหาเรื่องรายได้ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตนในฐานะฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบ ดูแลชาวบ้านในพื้นที่ของ อ.เขาชัยสน ก็ได้ประสานกับทางผู้นำท้องถิ่น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องของอาหาร เพื่อให้มีอาหารเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว และนอกจากนี้ นายกองตรี (ก.ต.)อาญาสิทธิ์ ฯ นายอำเภอเขาชัยสน ยังได้เดินสำรวจรอบๆที่พัก เพื่อปรับปรุงพื้นที่ว่าง เป็นแปลงเกษตรสำหรับปลูกผักสวนครัวต่อไป


และนอกจากนี้ ก็จะส่งเรื่องไปยังศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ครอบครัวนี้ได้รับการช่วยเหลือต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยที่แน่นอนต่อไปในอนาคต และการสร้างงาน สร้างอาชีพแบบยั่งยืนให้ทุกคนในครอบครัวต่อไป


ในส่วนของทางด้านบ้านพักเด็กฯ ก็จะเร่งพิจารณาให้การช่วยเหลือ ด้านเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวที่ยากจน เพื่อให้เก็บไว้เป็นทุนสำรองใช้จ่ายที่จำเป็นในอนาคตต่อไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นส.ปราณี ฯ หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือตนและครอบครัว ก็ดีใจมาก พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน ท่ามกลางรอยยิ้มที่ปนไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มยินดี.

รวบ2ผัวเมีย ขณะขับรถ จยย.ตระเวนส่งยาบ้า ตรวจยึดของกลางได้เกือบ 2 แสนเม็ด

พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุด ชปส.ภจว.พัทลุง พร้อมด้วยกำลัง จนท.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 9 ทหาร ชุด ฉก.ร.25 และ ตร.ชุด กก.3 บก.ปส.4(นปส.สงขลา) ร่วมกันจับกุมตัว 2 ผัวเมีย ได้ขณะขับรถ จยย.ตระเวนส่งยาบ้าให้ลูกค้าบริเวณริมถนนสายบายพาส ทราบชื่อ คือ นายบัญชา มณีปรีชา อายุ 36 ปี และนางสาวจันทรา ก่อเกื้อ อายุ 35 ปี

พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 96มัด คิดเป็นยาบ้าทั้งหมดจำนวน 191,000 เม็ด


หลังจากจับกุม และมีการสอบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้นำยาบ้าทั้งหมดมาตระเวนกระจายสินค้าให้ลูกค้าในพื้นที่

โดยมีนางสาวจันทรา ฯ ทำหน้าที่ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน 1กง-8326 ลำปาง และนายบัญชาฯ สามีนั่งซ้อนท้าย คอยสังเกตการณ์ แต่สุดท้ายถูกรวบได้ทั้งคู่ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ตร.กองสืบวางแผนร่วม ตชด.พัทลุง บุกรวบสองนักค้ายาเสพติดได้พร้อมของกลางจำนวนมาก


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าว ร้อย ตชด.ที่ 434 พัทลุง วางแผนล่อซื้อยาเสพติดชนิดไอซ์ ได้จำนวน 48.5 กรัม พร้อมเงินล่อซื้ออีกจำนวนหนึ่ง พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ทราบชื่อ คือ นายเกรียงไกร พรมแทนสุด อายุ 38 ปี และนาย กฤษดา นุ่นสำลี อายุ 29 ปี


ผลการจับกุม สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรม ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้แอบลักลอบขายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่มานาน จึงสนธิกำลัง ร่วมวางแผนเข้าจับกุม ได้พร้อมของกลางดังกล่าว


นายเกรียงไกร ฯ หรือนายหนึ่ง ผู้ต้องหา ถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ ของ อ.ป่าพะยอม ส่วนนายกฤษดา หรือ นายอาร์ม ฯ ผู้ต้องหาอีกราย จะทำหน้าที่กระจายยาเสพติด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เด็กเดินของให้กับ นายเกรียงไกรฯ เพื่อแลกกับค้าจ้างอีกทอดหนึ่ง หลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การยอมรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ปกครองบุกจับบ่อนไก่ของ ผญบ.เปิดเย้ย พรก.ฉุกเฉิน มั่วสุมชนไก่ ไม่สนโควิด-19

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกองตรี วิทยา นุ่นแจ้ง ผบ.ร้อย อส.จพัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ปกครองชุด ฉก.ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง ร่วมกันสนธิกำลังวางแผนจับกุมเซียนไก่ชน ในพื้นที่บ้านหน้าเกาะ ม.1 ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง

รวบนักพนันเซียนไก่ได้ จำนวน 2 ราย พร้อมด้วยอุปกรณ์ชนไก่ และซากไก่ตาย จำนวน 1 ตัว ผลจากการจับกุม เนื่องจากมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมว่า ในพื้นที่ดังกล่าว มีการเปิดลักลอบเล่นพนันชนไก่ โดยไม่สนใจ พรก.ฉุกเฉินแต่อย่างใด และยังทราบอีกว่า บ่อนชนไก่ดังกล่าว เป็นของ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งบ่อนที่เปิดให้เซียนพนันชนไก่กัน ก็อยู่ในสวนยางพารา ด้านหลังที่ทำการผู้ใหญ่บ้านไปประมาณ 100 เมตรเท่านั้น


หลังจากเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม เหล่าบรรดาเซียนไก่ชน ได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง บางรายวิ่งหลบหนีกระโดดลงลำห้วย ทิ้งรองเท้า ผ้าแดงผูกเอว ไว้ให้ดูต่างหน้าก็มี ส่วนเซียนพนันที่เจ้าหน้าที่วิ่งตามรวบตัวไว้ได้ จำนวน 2 ราย คือ นาย คำรพ แสงหอย อายุ 40 ปี และนาย วิโรจน์ ยศไพโรจน์ อายุ 49 ปี ทั้งสองรายอยู่ในอาการตกใจ แต่ภาระกิจนี้ทำเอาทั้งเซียนพนันชนไก่และเจ้าหน้าที่เหนื่อยหอบไปตามๆกัน


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึด อุปกรณ์การเล่นชนไก่ไว้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สุ่มครอบไก่ชน ป้อสำหรับล้อมทำคอกชนไก่ ขันน้ำสำหรับจับเวลา เก้าอี้นั่ง และตรวจยึด รถจักรยานยนต์อีก จำนวน 7 คัน เพื่อตรวจสอบ และรอเจ้าของแสดงตัวติดต่อกับเจ้าหน้าที่ต่อไป ส่วนเซียนพนันชนไก่ที่ถูกรวบตัวได้ ถูกแจ้ง2 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันชนไก่กับพวกที่หลบหนี พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และชุมนุมมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทำการใดๆอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ก่อนควบคุมตัวเซียนพนันชนไก่ทั้ง2 รายพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีบรรพต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ก็จะติดตามนำตัวมาสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง เรื่องการเปิดลักลอบให้มีการเล่นพนันชนไก่ต่อไป.

มอบตัวแล้ว พ่อสุดทนคว้าปืนยิงลูกชายขี้ยาเสียชีวิต หลังผู้ตายทำร้ายร่างกายย่าและคนในครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก. สภ.เขาชัยสน ร.ต.อ.จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กก.สส.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาชัยสน คุมตัว นายทวีศักดิ์ สงสุวรรณ อายุ 45 ปี ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุยิงนาย พงศ์ศักดิ์ หรือ ก้อง สงสุวรรณ ลูกชายอายุ 26 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 70 พื้นที่ ม.2 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 30 เม.ย.63 ที่ผ่านมา


จากการสอบสวน นายทวีศักดิ์ ฯ ผู้ต้องหา ทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกชายของตนเอง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปขอเงินย่า แต่ย่าไม่มีให้ จึงทำร้ายร่างกายย่า ตนเห็นเหตุการณ์เข้า สุดทนคว้าอาวุธ ขนาด 9 มม.ยิงไป 1 นัด กระสุนเจาะเข้าท้ายทอยผู้ตายจนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ นายทวีศักดิ์ ฯ ผู้ต้องหา ยังเล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายติดยาเสพติดอย่างหนัก ตนเคยพาไปบำบัดรักษาจนหมดเงินไปเกือบ 4 แสนบาท แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

ซ้ำร้ายผู้ตายยังก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อยทรัพย์สินของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้าน จนสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวและเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งหากไม่มีเงินให้ผู้ตายไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ก็จะทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวอีกด้วย จนล่าสุดตนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของผู้ตาย จึงคว้าอาวุธปืนยิงผู้ตายไป จำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต ก่อนติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอเข้ามอบตัวยอมรับความผิดต่อไป.

เซียนพนันคอตก หลังถูก ตร.รวบตัวได้คาวงไพ่

พ.ต.อ.ยศวรรธ์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย ร.ต.อ.จำเริญ อินทร์แก้ว รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ6 ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปำ บุกรวบเซียนพนันได้ 6 ราย พร้อมของกลาง คาวงไพ่ ในพื้นที่ ม.8 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง


ผลการจับกุมสืบเนื่องมาจาก มีการร้องเรียนว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการลักลอบเล่นการพนัน ทั้งที่ในช่วงนี้ก็มีประกาศสั่งห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมเล่นการพนันกัน แต่ยังคงมีนักพนันฝ่าฝืนและลักลอบเล่นการพนันกันไม่เว้นแต่ละวัน และขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม เหล่าบรรดานักพนันวงแตก วิ่งหนีกระเจิง บางรายวิ่งหนีเข้าห้องนอนใส่กลอนประตูเรียบร้อย บ้างก็วิ่งเข้าห้องน้ำ แต่สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ตามรวบได้หมดทั้งวง รวม 6 ราย ได้แก่ นางจรรยา โมราสิทธิ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 ม.8 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งรับเป็นเจ้าบ้านที่เปิดบ้านพักให้ร่วมเล่นการพนันกัน และยังมี นางเขียว แสงแก้ว อายุ 41 ปี น.ส.สายฝน โมราสิทธิ์ อายุ 25 ปี นายพัน เลื่อนแป้น อายุ 62 ปี นายสุทธิพงศ์ สงขวัญ อายุ 38 ปี และนายบุญธรรม รักษ์แก้ว อายุ 50 ปี นักพนันทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ พร้อมด้วยของกลาง ไพ่ จำนวน 1 สำรับ เงินสด จำนวนหนึ่ง และไม้สำหรับเขี่ยไพ่ จำนวน 6 อัน


ถูกแจ้ง2ข้อหาหนัก ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่ผ่องไทย พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้อนุญาต ชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆหรือกระทำการใดๆอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ก่อนคุมตัวนักพนันทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำปำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

พัทลุงสัญญาณดีไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในช่วง14วัน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ล่าสุดพบว่า ตั้งแต่ช่วงวันที่ 16 มี.ค.63 ถึง วันที่ 9 เม.ย.63 มียอดผู้ติดเชื้อเพียง 14 ราย และรักษาหายกลับบ้านได้แล้วทั้งหมด และตอนนี้ยังคงไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเลย แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่พัทลุง จะดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องต่อไป


โดยประชาชนเองยังต้องตระหนัก และร่วมมือ ร่วมใจปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่ว่า จะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ล้างมือ กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน และเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปอีกสักระยะหนึ่ง


และในวันนี้ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จนถึงขณะนี้ จังหวัดพัทลุง ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่มาเป็นระยะเวลา 14 วันแล้ว และฝากขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงทุกคน ภาครัฐทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศของจังหวัดอย่างเข้มงวด และต้องขออภัยในความไม่สะดวกบริเวณจุดตรวจระหว่างจังหวัด ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการนำเชื้อ และลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย


สำหรับมาตรการผ่อนปรน ต้องรอดูสถานการณ์ จากทางรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. จะเป็นผู้พิจารณาโดยประเมินจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มหรือลด พื้นที่จังหวัดข้างเคียงต่อไป ส่วนมาตรการการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 นี้ ขณะนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานส่วนราชการอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งจัดทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ เร่งลงสำรวจบุคคลที่ได้รับผลกระทบแล้วทั้ง 11 อำเภอ เพื่อเตรียมมาตรการ การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป.

รวบเด็กรับจ้างเดินยา ได้พร้อมของกลางยาบ้าเกือบร้อยเม็ด อ้างหาเงินเสพยาและเที่ยวเตร่

ร.ต.อ.ประเสริฐ วัฒน์หนู รองสารวัตรสืบสวน สภ.บางแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง และชุด ฉก.ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เข้าจับกุม วัยรุ่นชาย อายุ 19 ปี ได้ในพื้นที่บางแก้ว พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 90 เม็ด ก่อนซัดทอดเพื่อนชายอีกคน


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมคุมตัววัยรุ่นชายคนดังกล่าว บุกตรวจค้นบ้านเพื่อนชายอีกคน ทราบเพียงชื่อเล่น คือนายแม็ค อยู่ในพื้นที่วังหลัก ม.4 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เจ้าตัวไหวตัวทันหลบหนี พบเพียงผู้เป็นแม่ที่กำลังเลี้ยงแพะอยู่ข้างบ้าน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการพูดคุยกับผู้เป็นแม่ และขออนุญาตตรวจค้นภายในบ้าน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมแต่อย่างใด


ก่อนคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม วัยรุ่นชายวัย 19 ปี ให้การรับสารภาพ ว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเองจริง เพิ่งไปรับมาจากเอเย่นต์ในพื้นที่แถวบ้าน กำลังเตรียมนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.บางแก้ว แต่มาถูกรวบตัวได้เสียก่อน ก่อนยอมรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ตนรับจ้างเดินยาบ้าให้กับกลุ่มเอเย่นต์ในพื้นที่มานาน เพื่อแลกกับค้าจ้างครั้งละไม่กี่บาท บวกกับตนเองก็ติดยาบ้าและน้ำต้มพืชกระท่อมอย่างหนัก

อ้างจึงจำเป็นต้องหาเงินโดยการรับจ้างส่งยาบ้า ส่วนเงินที่เหลือก็นำไปใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ตามประสาวัยรุ่น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัววัยรุ่นคนดังกล่าว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.