เรียนออนไลน์วันแรก ทำเอาวุ่นกันตั้งแต่เช้า ผู้ปกครองต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

บรรยากาศการเรียน การสอนออนไลน์วันแรก โดยเรียนผ่านระบบเทคโนโลยีทางการศึกษาทางไกล เป็นมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ ในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และถือเป็นครั้งแรกของประเทศที่ได้มีการจัดการเรียนออนไลน์ในทุกระดับชั้น

ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมมือกับหน่วยงานทางการศึกษาหลากหลายหน่วยงาน ร่วมกันจัดทำการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านฟรีทีวี 17 ช่อง เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัย ผ่านทางช่องทีวีดิจิทัล และได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจัดการ “เรียนออนไลน์” ด้วยเช่นกัน โดยเผยแพร่สัญญาณผ่านดาวเทียมฯ (DLTV) ครอบคลุมทุกระดับชั้นการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษา

สำหรับในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงนั้น ผู้ปกครอง ต่างตื่นตัววุ่นกันตั้งแต่เช้าโดยการจัดลูกๆระดับชั้นประถม มานั่งหน้าจอคอมพิเตอร์ พร้อมสอนให้เปิดเว็บเข้าดูการเรียนออนไลน์ และตารางการเรียนของแต่ละวัน

นางนภาพร เนตรเกื้อกูล หนึ่งในผู้ปกครอง ที่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์ประกอบการเรียน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอินเตอร์เน็ต เครื่องคอมพิเตอร์ ก่อนออกไปทำงาน ต้องสอนลูกชายวัย 12 ขวบที่กำลังเข้าเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พัทลุง ถึงวิธีการเข้าถึงเว็บที่จะเรียนทางออนไลน์ ในแต่ละวัน

ในขณะที่ผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็ต่างวุ่นกันตั้งแต่เช้าเหมือนกัน เพื่อเปิดโทรทัศน์ หาช่องสัญญาณผ่านดาวเทียมฯ (DLTV) ให้ตรงกับชั้นเรียนของของลูก หลานตัวเอง และผู้ปกครองบางรายยังต้องคอยดูแลบุตร หลาน อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เด็กตั้งใจเรียน ผู้ปกครองบางรายที่มีบุตร หลานอยู่ในสายชั้นเดียวกันต่างโทรศัพท์หากันเพื่อปรึกษาแนะนำกัน และต่างพบว่าผู้ปกครองและลูกๆมีการตื่นตัว ที่จะเรียนทางระบบออนไลน์
แต่ยังคงผู้ปกครองจำนวนไม่น้อย ที่ยังคงหนักใจ เนื่องจากไม่ได้ดูแลอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าเด็กๆอาจจะไม่ตั้งใจเรียนได้ และผู้ปกครองบางรายยังไม่เข้าใจถึงการเรียนออนไลน์ และยังทำกันไม่ถูกบ้างก็มี.

ไฟไหม้รถที่จอดอยู่หน้าบ้านคุณตาวัย 84ปี น้องชายอดีตผู้ว่าเมืองลุง โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือ สองตายาย หลังได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้รถที่จอดอยู่หน้าบ้าน และกำลังลุกลามไหม้บ้าน ในพื้นที่ ชุมชนควนมะพร้าว เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง


เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ก็พบคุณตาวัย 84 ปี ทราบชื่อภายหลังคือ นายสานิตย์ สุภาไชยกิจ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และยังเป็นน้องชายของอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงอีกด้วย อยู่ในอาการตกใจ และสำลักควันไฟ จากการที่หาน้ำไปดับไฟที่ไหม้รถ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าปฐมพยาบาลช่วยเหลือเบื้องต้นจนอาการดีขึ้นแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้


นางวีนัส สุภาไชยกิจ อายุ 76 ปี ภรรยาของคุณตาวัย 84 ปี เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและคุณตาได้เข้านอนตามปกติ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงดังป็อกแป็กขึ้น ในบริเวณที่จอดรถ ก็ออกมาดู ถึงกับตกใจเห็นไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์โตโยต้าแคป สีบรอนซ์ป้ายทะเบียน บง-7197 พัทลุง เป็นของลูกสาวของตนที่จอดไว้ไม่ได้ใช้งานนานมาก


ส่วนสาเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากระบบไฟภายในรถลัดวงจร ก่อนไหม้หม้อแบตเตอรี่และไหม้ลุกลามห้องเครื่องพังเสียหายทั้งหมด แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเปลวไฟไม่ลุกลามไปไหม้บ้าน.

ตชด.434 พร้อมด้วย ตร.กองสืบพัทลุง ตามรวบเครือข่ายค้ายานรกรายสำคัญได้พร้อมของกลางจำนวนมาก


เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการข่าว ร้อย ตชด.434 พัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง สนธิกำลังร่วมกันจับกุมตัวนายกัฐวิทย์ หรือบอล อนุกูล อายุ 33 ปี เครือข่ายค้ายาบ้ารายสำคัญในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมของกลางยาบ้า และไอซ์ ได้เป็นจำนวนมาก


ผลการจับกุม สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบทราบว่า มีเครือข่ายค้ายารายสำคัญในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เข้ามาทำการซื้อขายยาเสพติดในพื้นที่ จ.พัทลุง จึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและตรวจปัสสาวะ และจากการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดเช่นกัน แต่จากการสอบสวนบุคคลดังกล่าวให้การซัดทอดไปยังเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้สนธิกำลังเข้าทำการล่อซื้อยาเสพติดจากเอเย่นต์รายดังกล่าวในพื้นที่ของ อ.หาดใหญ่ ได้สำเร็จ พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 5,600 เม็ด และไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม เงินล่อซื้อจำนวนหนึ่ง ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม นายกัฐวิทย์ หรือบอลฯ ผู้ต้องหาพยายามวิ่งหลบหนี แต่สุดท้ายไปไม่รอดถูกควบคุมตัวได้ในที่สุด ก่อนถูกควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดี ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า และไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ต่อไป.

ชาวบ้านนอนรอรับบัตรคิวยื่นขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาวันสุดท้าย

ชาวบ้านในพื้นที่ จ.พัทลุง จำนวนมาก มานอนรอรับบัตรคิวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อยื่นแบบรับร้องทุกข์ขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาเงิน 5 พันบาทวันสุดท้าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ผิดหวังจากการลงทะเบียนรอบแรกและรอบอุทธรณ์ ต่างเข้าคิวทยอยพบเจ้าหน้าที่ แต่ชาวบ้านที่มาส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ ว่าจะได้รับเงินเยียวยาที่มีผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19


ซึ่งบรรยากาศล่าสุด ที่บริเวณหอประชุม ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ยังคงมีชาวบ้านมานั่งรอ นอนรอคิวที่ตั้งแต่เวลา ตี 4 ช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เพื่อรอรับรับบัตรคิวเป็นวันสุดท้าย ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรอบแรกและรอบอุทธรณ์ ในโครงการ “เราไมทิ้งกัน.com” ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อขอทบทวนสิทธิ์ตามาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ


ทางด้าน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่คลัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกครอง เข้ามาจัดระเบียบ บุคคลที่เข้ามาติดต่ออย่างเข้มงวด โดยเปิดช่องทางพิเศษประตูด้านข้างอาคารศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าตัวอาคาร นอกจานี้ยังมีการตรวจ วัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ และเว้นระยะห่างทางสังคม ตามมาตรการทุกอย่าง เพื่อป้องกัน และลดการติดเชื้อโควิด-19


และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่ผิดหวังจากการลงทะเบียนในระบบ“เราไมทิ้งกัน.com” จะพบว่าระบบยังยืนยันว่าเป็นเกษตรกร มีการลงทะเบียนไม่สำเร็จ เลขประจำตัวประชาชน 4 หลักท้ายไม่ถูกต้อง /ระบบไม่พบข้อมูลลงทะเบียน และอื่นๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกข้อมูลลงในแบบรับร้องทุกข์ ขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาเงิน 5พันบาท ใหม่ให้ เพื่อส่งไปยังกระทรวงการคลังดำเนินการต่อไป


ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ถึง“เงินดังกล่าวว่าจะได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่ตอบได้เพียงว่า “ รอส่วนกลางพิจารณา ” ทำให้ชาวบ้านที่มาทั้งหมดในวันนี้ ยังไม่มั่นใจว่าจะรับเงินเยียวยา 5พันบาทจากโครงการนี้หรือไม่ และต้องรอกันอย่างมีความหวังต่อไป.

เกษตรกรรับเงินเยียวยากลุ่มแรกกว่า 2พันคน ทยอยเบิกเงินจนแน่น ธ.ก.ส.

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพัทลุง มีชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกร ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์รับเงินเยียวยา มายืนเข้าแถวรอคิวเบิกเงินกันเป็นจำนวนมาก บางรายก็มีการนำสมุดฝากมาปรับดูยอดเงินก่อนก็มี ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ก็มีการวางตู้สำหรับปรับสมุดไว้ด้านหน้าธนาคาร โดยไม่ต้องหยิบบัตรคิว แต่มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ก่อนใช้บริการทุกครั้ง

ทางด้าน นายอมร นวลสนอง ผู้จัดการสาขาพัทลุง กล่าวว่า ในวันนี้ทาง ธ.ก.ส.สาขาพัทลุง ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน เพื่อไว้คอยบริการชาวบ้านที่มาใช้บริการที่ ธ.ก.ส.โดยเฉพาะชาวบ้านที่เป็นเกษตรกร ที่มาเบิก-ถอนเงินเยียวยาเกษตรกลุ่มแรกรายละ 5พันบาท ซึ่งเกษตรที่ได้รับสิทธิ์กลุ่มแรกเฉพาะสาขาพัทลุง มีมากถึง 2,017 ราย เริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 พ.ค.63นี้ ในวงเงินทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนการจัดการ เพื่อลดความแออัด ไม่ให้ชาวบ้านมารอคิวนาน ทาง ธ.ก.ส.ได้จัดเจ้าหน้าที่ สำหรับหยิบบัตรคิวให้ชาวบ้านที่มาติดต่อวันละ กว่า 300คิว สำหรับเกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยา แต่ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ต้องมีการเบิก-ถอนผ่านเจ้าหน้าที่ ที่ ธ.ก.ส.โดยตรงก็เตรียมคิวไว้ประมาณ 250คิว ต่อวัน ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาทำให้ชาวบ้านรอคิวนาน และลดการแออัดเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19


และนอกจากการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการแล้ว ทาง ธ.ก.ส.สาขาพัทลุง ยังมีบริการน้ำดื่มไว้คอยบริการชาวบ้านทุกคนที่มาติดต่อ ธ.ก.ส.อีกด้วย
ในส่วนของทางด้านกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า พวกตนต่างดีใจที่ได้รับเยียวยาช่วยเหลือเกษตร ขอบคุณทางรัฐบาลที่เข้าใจหัวอกเกษตรกร และหลังจากนี้พวกเขาก็นำเงินส่วนที่ได้ไปซื้อวัวต่อเติมคอก และ ต่อยอดผลผลิตทางเกษตรต่อไป.

จนท.บ้านพักเด็ก ร่วมกับนายอำเภอเขาชัยสน ลงพื้นที่ช่วยเหลือหญิงสาววัย 35 ปี ที่ไร้ที่อยู่ และได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19

นายกองตรี (ก.ต.)อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายอำเภอเขาชัยสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง ลงพื้นที่ไปยังครอบครัวหนึ่งที่อาศัยกันอยู่ จำนวน 7 ชีวิต ในเพิงพักหลังเล็กๆที่ผู้ใจบุญสร้างให้อยู่อาศัยชั่วคราว ในพื้นที่บ้านหลัก 42 ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ยังได้นำเครื่องอุปโภค บริโภคในครัวเรือน เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมัน ไข่ไก่ และของใช้เด็กอ่อน อย่าง นมผง และแพมเพิร์ส ไปมอบช่วยเหลือให้เบื้องต้นด้วย


นส.ปราณี พรมมา อายุ 35 ปี เล่าว่า ตน และสามี พร้อมลูกน้อยอีก 5 ชีวิต ไร้ที่อยู่อาศัย รับจ้างทำงานไปเรื่อยๆ แต่โชคดีที่ก่อนหน้านี้ มีผู้ใจบุญช่วยเหลือมาเช่าที่ สร้างเพิงพักเล็กๆ ให้ตนและครอบครัวได้อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วตนได้คลอดลูกคนเล็ก จนไม่สามารถออกทำงานรับจ้างได้เหมือนเดิม บวกกับเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สามีเองก็ต้องตกงาน รายได้แทบจะไม่มีเข้ามาเลย อาศัยปลูกผักสวนครัวข้างเพิงพักกินปะทังชีวิต และข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนบางส่วนก็มีผู้ใจบุญ ได้แวะเวียนมาช่วยเหลือบ้าง และล่าสุดมีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือดังกล่าว


ทางด้าน นายกองตรี (ก.ต.)อาญาสิทธิ์ ฯ นายอำเภอเขาชัยสน กล่าวว่า วันนี้ทางอำเภอก็ได้มีโอกาสได้มาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้ ซึ่งมีปัญหาเรื่องรายได้ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตนในฐานะฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบ ดูแลชาวบ้านในพื้นที่ของ อ.เขาชัยสน ก็ได้ประสานกับทางผู้นำท้องถิ่น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องของอาหาร เพื่อให้มีอาหารเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว และนอกจากนี้ นายกองตรี (ก.ต.)อาญาสิทธิ์ ฯ นายอำเภอเขาชัยสน ยังได้เดินสำรวจรอบๆที่พัก เพื่อปรับปรุงพื้นที่ว่าง เป็นแปลงเกษตรสำหรับปลูกผักสวนครัวต่อไป


และนอกจากนี้ ก็จะส่งเรื่องไปยังศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ครอบครัวนี้ได้รับการช่วยเหลือต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยที่แน่นอนต่อไปในอนาคต และการสร้างงาน สร้างอาชีพแบบยั่งยืนให้ทุกคนในครอบครัวต่อไป


ในส่วนของทางด้านบ้านพักเด็กฯ ก็จะเร่งพิจารณาให้การช่วยเหลือ ด้านเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวที่ยากจน เพื่อให้เก็บไว้เป็นทุนสำรองใช้จ่ายที่จำเป็นในอนาคตต่อไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นส.ปราณี ฯ หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือตนและครอบครัว ก็ดีใจมาก พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน ท่ามกลางรอยยิ้มที่ปนไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มยินดี.

รวบ2ผัวเมีย ขณะขับรถ จยย.ตระเวนส่งยาบ้า ตรวจยึดของกลางได้เกือบ 2 แสนเม็ด

พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุด ชปส.ภจว.พัทลุง พร้อมด้วยกำลัง จนท.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 9 ทหาร ชุด ฉก.ร.25 และ ตร.ชุด กก.3 บก.ปส.4(นปส.สงขลา) ร่วมกันจับกุมตัว 2 ผัวเมีย ได้ขณะขับรถ จยย.ตระเวนส่งยาบ้าให้ลูกค้าบริเวณริมถนนสายบายพาส ทราบชื่อ คือ นายบัญชา มณีปรีชา อายุ 36 ปี และนางสาวจันทรา ก่อเกื้อ อายุ 35 ปี

พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 96มัด คิดเป็นยาบ้าทั้งหมดจำนวน 191,000 เม็ด


หลังจากจับกุม และมีการสอบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้นำยาบ้าทั้งหมดมาตระเวนกระจายสินค้าให้ลูกค้าในพื้นที่

โดยมีนางสาวจันทรา ฯ ทำหน้าที่ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน 1กง-8326 ลำปาง และนายบัญชาฯ สามีนั่งซ้อนท้าย คอยสังเกตการณ์ แต่สุดท้ายถูกรวบได้ทั้งคู่ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ตร.กองสืบวางแผนร่วม ตชด.พัทลุง บุกรวบสองนักค้ายาเสพติดได้พร้อมของกลางจำนวนมาก


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าว ร้อย ตชด.ที่ 434 พัทลุง วางแผนล่อซื้อยาเสพติดชนิดไอซ์ ได้จำนวน 48.5 กรัม พร้อมเงินล่อซื้ออีกจำนวนหนึ่ง พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ทราบชื่อ คือ นายเกรียงไกร พรมแทนสุด อายุ 38 ปี และนาย กฤษดา นุ่นสำลี อายุ 29 ปี


ผลการจับกุม สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรม ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้แอบลักลอบขายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่มานาน จึงสนธิกำลัง ร่วมวางแผนเข้าจับกุม ได้พร้อมของกลางดังกล่าว


นายเกรียงไกร ฯ หรือนายหนึ่ง ผู้ต้องหา ถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ ของ อ.ป่าพะยอม ส่วนนายกฤษดา หรือ นายอาร์ม ฯ ผู้ต้องหาอีกราย จะทำหน้าที่กระจายยาเสพติด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เด็กเดินของให้กับ นายเกรียงไกรฯ เพื่อแลกกับค้าจ้างอีกทอดหนึ่ง หลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การยอมรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ปกครองบุกจับบ่อนไก่ของ ผญบ.เปิดเย้ย พรก.ฉุกเฉิน มั่วสุมชนไก่ ไม่สนโควิด-19

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกองตรี วิทยา นุ่นแจ้ง ผบ.ร้อย อส.จพัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ปกครองชุด ฉก.ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง ร่วมกันสนธิกำลังวางแผนจับกุมเซียนไก่ชน ในพื้นที่บ้านหน้าเกาะ ม.1 ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง

รวบนักพนันเซียนไก่ได้ จำนวน 2 ราย พร้อมด้วยอุปกรณ์ชนไก่ และซากไก่ตาย จำนวน 1 ตัว ผลจากการจับกุม เนื่องจากมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมว่า ในพื้นที่ดังกล่าว มีการเปิดลักลอบเล่นพนันชนไก่ โดยไม่สนใจ พรก.ฉุกเฉินแต่อย่างใด และยังทราบอีกว่า บ่อนชนไก่ดังกล่าว เป็นของ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งบ่อนที่เปิดให้เซียนพนันชนไก่กัน ก็อยู่ในสวนยางพารา ด้านหลังที่ทำการผู้ใหญ่บ้านไปประมาณ 100 เมตรเท่านั้น


หลังจากเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม เหล่าบรรดาเซียนไก่ชน ได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง บางรายวิ่งหลบหนีกระโดดลงลำห้วย ทิ้งรองเท้า ผ้าแดงผูกเอว ไว้ให้ดูต่างหน้าก็มี ส่วนเซียนพนันที่เจ้าหน้าที่วิ่งตามรวบตัวไว้ได้ จำนวน 2 ราย คือ นาย คำรพ แสงหอย อายุ 40 ปี และนาย วิโรจน์ ยศไพโรจน์ อายุ 49 ปี ทั้งสองรายอยู่ในอาการตกใจ แต่ภาระกิจนี้ทำเอาทั้งเซียนพนันชนไก่และเจ้าหน้าที่เหนื่อยหอบไปตามๆกัน


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึด อุปกรณ์การเล่นชนไก่ไว้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สุ่มครอบไก่ชน ป้อสำหรับล้อมทำคอกชนไก่ ขันน้ำสำหรับจับเวลา เก้าอี้นั่ง และตรวจยึด รถจักรยานยนต์อีก จำนวน 7 คัน เพื่อตรวจสอบ และรอเจ้าของแสดงตัวติดต่อกับเจ้าหน้าที่ต่อไป ส่วนเซียนพนันชนไก่ที่ถูกรวบตัวได้ ถูกแจ้ง2 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันชนไก่กับพวกที่หลบหนี พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และชุมนุมมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทำการใดๆอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ก่อนควบคุมตัวเซียนพนันชนไก่ทั้ง2 รายพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีบรรพต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ก็จะติดตามนำตัวมาสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง เรื่องการเปิดลักลอบให้มีการเล่นพนันชนไก่ต่อไป.

มอบตัวแล้ว พ่อสุดทนคว้าปืนยิงลูกชายขี้ยาเสียชีวิต หลังผู้ตายทำร้ายร่างกายย่าและคนในครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก. สภ.เขาชัยสน ร.ต.อ.จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กก.สส.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาชัยสน คุมตัว นายทวีศักดิ์ สงสุวรรณ อายุ 45 ปี ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุยิงนาย พงศ์ศักดิ์ หรือ ก้อง สงสุวรรณ ลูกชายอายุ 26 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 70 พื้นที่ ม.2 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 30 เม.ย.63 ที่ผ่านมา


จากการสอบสวน นายทวีศักดิ์ ฯ ผู้ต้องหา ทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกชายของตนเอง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปขอเงินย่า แต่ย่าไม่มีให้ จึงทำร้ายร่างกายย่า ตนเห็นเหตุการณ์เข้า สุดทนคว้าอาวุธ ขนาด 9 มม.ยิงไป 1 นัด กระสุนเจาะเข้าท้ายทอยผู้ตายจนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ นายทวีศักดิ์ ฯ ผู้ต้องหา ยังเล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายติดยาเสพติดอย่างหนัก ตนเคยพาไปบำบัดรักษาจนหมดเงินไปเกือบ 4 แสนบาท แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

ซ้ำร้ายผู้ตายยังก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อยทรัพย์สินของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้าน จนสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวและเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งหากไม่มีเงินให้ผู้ตายไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ก็จะทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวอีกด้วย จนล่าสุดตนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของผู้ตาย จึงคว้าอาวุธปืนยิงผู้ตายไป จำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต ก่อนติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอเข้ามอบตัวยอมรับความผิดต่อไป.