หนุ่มวัย31ปีเร่งทำหน้ากากเฟสชิว แจกฟรีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสู้วิกฤติโควิด-19

นายนันทพงษ์ บุญโยม อายุ 31 ปี เจ้าของร้านบ้านมีเดียโปรดักชั่น ร้านตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ถ.อภัยบริรักษ์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัว เร่งทำหน้ากากเฟสชิว(Face shield) เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.พัทลุง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หรือบุคคลที่ต้องทำงานเสี่ยงกับการติดเชื้อโรคโควิด-19 ซึ่งตั้งเป้าที่จะนำไปแจกจ่ายให้ฟรีถึง 300 ชิ้น


ซึ่งก่อนหน้านี้ นายนันทพงษ์ ฯ ก็ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวที่ชื่อว่า “นันทพงษ์ บุญโยม “ถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่สนใจรับหน้ากากเฟสชิว จนมีเจ้าหน้าที่ติดต่อขอรับหน้ากากดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก จึงคิดกันกับครอบครัวว่าจะทำหน้ากากเฟสชิวแจกจ่ายแก่เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ที่โรงพยาบาลที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยและมีความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่มากที่สุด อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตนเองก็เปิดร้านรับทำงานป้ายอยู่ก่อนแล้วด้วย จึงพอที่จะมีอุปกรณ์ในการทำหน้ากากเฟสชิว ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพลาสวูด เครื่องตัดฉลุ แผ่นโฟม และกระดาษปกแบบใสเองก็ตาม จึงได้คิดเริ่มทำหน้ากากเฟสชิวมาตั้งแต่ วันที่ 26 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

นายนันทพงษ์ ฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จริงๆแล้วสำหรับใครที่จะใช้เองก็สามารถทำได้ง่ายๆ ต้นทุนต่อชิ้นก็ไม่มาก ใช้งบประมาณ 20 บาทต่อชิ้น ใช้เวลาทำก็ประมาณ 5 ถึง 7 นาทีเท่านั้น


ล่าสุด หลังจากมีเจ้าหน้าที่ ผู้คนที่ทราบข่าว เดินทางเข้ามาขอรับหน้ากากเฟสชิวที่ร้านกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง และในวันจันทร์ที่ 30 มี.ค.63 นี้ ก็จะนำหน้ากากเฟสชิว จำนวน 50 ชิ้น ไปให้เจ้าหน้าที่ ที่โรงพยาบาลพัทลุงต่อไป
และสำหรับใครที่สนใจ

หรือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ หรือมีความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องการรับหน้ากากเฟสชิว ก็สามารถติดต่อ นายนันทพงษ์ฯ ผ่านหน้าเฟสบุ๊ค “นันทพงษ์ บุญโยม “ หรือเข้าไปติดต่อที่ร้านบ้านมีเดียฯ ได้ตลอด หรือจนกว่าของจะหมด.

รวบยกแก๊ง มือปืนที่ก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้านน้ำดีเสียชีวิตในพื้นที่ อ.กงหราเมื่อสามเดือนก่อน พร้อมคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุ

จากกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันก่อเหตุ อย่างอุกอาจบุกยิง นายสราวุธ นะแหล่ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านน้ำดีในพื้นที่ ม.8 เสียชีวิต ขณะไปเลี้ยงแพะกลางสวนยางพารา ในพื้นที่บ้าน

หน้าวัง ม.8 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา

เหตุเกิดช่วงค่ำของคืนวันที่ 10 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกชุด ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบเบาะแส และรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ทั้งหมดยกแก๊ง รวม 3 ราย


และในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 25 มี.ค.63 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไชยา กำเหนิดฤทธิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นิกร ปานแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.กงหรา และ พ.ต.ท.ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร รอง ผกก.ฯ ปฏิบัติราชการ กก.สส.ภ.จว.พัทลุง เปิดปฏิบัติการ นำกำลังชุดปฏิบัติการข่าวและความมั่นคง กก.สส. ชุดวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมีพิเศษ กก.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กงหรา เกือบ 50 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ จำนวน 3 ราย คือ 1.นายพรสุริยา หรือเจี๊ยบ ชูคง อายุ 40 ปี 2.นายเอกชัย หรืออาร์ม ณ พัทลุง อายุ 31 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ และ 3.น.ส.สิริยาหรือจุก สะแหละ อายุ 50 ปี ในความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่นฯ


ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุบริเวณบ้านหน้าวัง ม.8 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา โดยเริ่มตั้งแต่จุดวางแผนก่อเหตุบริเวณสนามชนไก่ในพื้นที่ จุดซ่อนปืนที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่านำอาวุธปืนมาวางไว้สำหรับก่อเหตุ
ทางด้าน พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า หลังจากจับกุม และมีการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพ ว่าใครทำหน้าที่อะไร ส่วนมูลเหตุเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างผู้ตาย และ น.ส.สิริยาหรือจุกฯ ผู้ต้องหา ที่มีสะสมมานาน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง จึงไหว้วานผู้ต้องหาอีก 2 รายซึ่งรู้จักกันมาก่อน ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวขึ้น.

ผู้การเมืองลุงเร่งลงพื้นที่เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านลุงวัย 69 ปี พร้อมให้กำลังใจครอบครัว

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วย
พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง และชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กก.สส.ฯ ชุดสืบสวน สภ.ลำปำ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอุกอาจ ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกยิงบ้านของลุง ละเอียด ภัยมณี อายุ 69ปี บ้านเลขที่ 49 ซ.30 ถ.อภัยบริรักษ์ ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง อีกครั้งหลังเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา


ทั้งนี้เพื่อลงให้กำลังใจครอบครัวของลุงวัย 69ปีด้วย พร้อมเร่งจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายผ่านไปมาในช่วงก่อเหตุ

ส่วนปมความขัดแย้งเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัวของลูกๆของลุง ซึ่งทราบว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวของลุงเคยไปกู้ยืมเงินมา แต่ยังไม่ใช้คืน หรือประเด็นของลูกชายลุงที่เข้าไปช่วยเหลือเหตุรถชน ทำให้ทางคู่กรณีอีกฝ่ายไม่พอใจก็เป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องสืบสวน สอบถามพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี และหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

โรงพยาบาลพัทลุง เปิดจุดคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อลดความแออัดและป้องกันการแพร่เชื้

นายวิรัตน์ รักษ์พันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เดินทางไปเยี่ยม ให้กำลังใจคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในการเปิดจุดคัดกรอง หรือจุดบริการคลินิก ARI( เอ อาร์ ไอ. คลินิก ) โรคทางเดินหายใจ ที่บริเวณด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลพัทลุง


ซึ่งเปิดเป็นวันแรก โดยมีนายแพทย์จรุง บุญกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง นายไพศาล เกื้ออรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ


จากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาล และสถานบริการสาธารณสุข ถือว่าเป็นจุดเสี่ยง ที่อาจจะมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป ดังนั้น โรงพยาบาลพัทลุง จึงได้จัดตั้งจุดบริการคลินิก ARI ( เอ อาร์ ไอ. คลินิก ) โรคทางเดินหายใจ หรือ คลินิกโรคไข้หวัด

เพื่อคัดกรองผู้ป่วยในเบื้องต้น โดยจะมีการซักประวัติ ให้ผู้ป่วยจัดทำแบบสอบถามประเมินตนเองว่า ได้มีการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือไม่
มีญาติเป็นผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือ มีอาชีพที่ต้องคลุกคลีกับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบว่ามีไข้ จะแจกหน้ากากอนามัยให้ผู้ป่วย และทำการแยกตรวจหาเชื้อ


ไวรัส COVID-19 ที่คลินิก ARI ก่อน หากไม่มีประวัติที่สุ่มเสี่ยง หรือ ได้รับการวินิจฉัยแล้ว ไม่พบเชื้อ หรือ เป็นไข้หวัดธรรมดา ก็จะได้เข้ารับการบริการได้ตามปกติ


นายแพทย์จรุง บุญกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง กล่าวว่า โรงพยาบาลพัทลุง มีมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และการป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วยตั้งแต่ด่านหน้าโรงพยาบาล เพื่อแยกผู้ป่วย คือ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัด เป็นไข้ ไอ มีน้ำมูก จะแยกมาตรวจที่คลิกนิก ARI ( เอ อาร์ ไอ. คลินิก ) หรือ คลินิกโรคหวัด และหากคนไข้มีประวัติเสี่ยงมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะแยกไปตรวจอีกจุดหนึ่ง เพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งจะดูแลอย่างเข้มข้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ที่เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลพัทลุง


ส่วนกรณีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตาม พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้บุคคลเหล่านั้นกักตัวในบ้านตนเอง 14 วัน แต่หากมีอาการป่วยเป็นไข้ จะนำตัวไปตรวจที่โรงพยาบาล และกักตัว 14 วัน จนกว่าผลการตรวจไม่พบเชื้อ จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังจากนั้นให้ไปกักตัวที่บ้านอีก 14 วัน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ซึ่งกรณีดังกล่าว ขณะนี้ ยังไม่พบในพื้นที่จังหวัดพัทลุงแต่อย่างใด.

ลูกเขยปืนดุ ชักปืนยิงน้องเมียบาดเจ็บ ก่อนยิงพ่อตาเสียชีวิตอีกราย

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเลน้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยควนขนุน และเจ้าหน้าทีกู้ชีพตำบลทะเลน้อย เร่งเข้าตรวจสอบบริเวณถนนภายในหมู่บ้านปลายตรอก ม.5 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

หลังได้รับว่ามีคนถูกยิงบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบนายพีรยุ ศรีนุ่น อายุ21ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นขาด้านซ้าย เจ้าหน้าทีกู้ชีพตำบลทะเลน้อยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลควนขนุนเพื่อช่วยเหลือต่อไป ใกล้กันยังพบร่างของนาย สมพร ศรีนุ่น อายุ 54 ปี

สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กลางถนน มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณหลังมือด้านซ้าย จำนวน 1 แผล บริเวณหน้าอกซ้ายอีก 1 แผล เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ


จากการสอบถามชาวบ้านในจุดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และคนก่อเหตุ ได้ร่วมนั่งดื่มกินกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน หลังจากนั้นก็มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ก่อนพบว่ามีคนถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว


ส่วนปมความขัดแย้งก็น่าจะมาจากความบาดหมางกันภายในครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาแล้วหลายครั้ง


อย่างไรก็ตามส่วนคนก่อเหตุ ก็ได้หลบหนีไปหลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งจัดชุดสืบสวนทั้งในพื้นที่ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงเร่งติดตามตัวอย่างเร่งด่วนแล้ว.

ปกครองและ ตร.บุกรวบหนุ่มวัย 41ปี ลักลอบปลูกต้นกัญชา อ้างปลูกไว้เพื่อแจกจ่ายเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ตะโหมด

บุกรวบ นายสายันห์ จันทวุฒิ อายุ 41ปี อยู่บ้านเลขที่ 272 ม.9 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ลักลอบปลูกต้นกัญชา อ้างปลูกไว้เพื่อแจกจ่ายเพื่อนบ้าน แต่ความจริงแอบลักลอบขายอยู่ต้นละ 500 ถึง 1 พันบาท


ผลการจับกุมสืบเนื่องมาจาก ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ ร้องเรียนผ่านชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เกี่ยวกับพฤติกรรมของนายสายันห์ฯ ผู้ต้องหา ว่าได้ลักลอบปลูกต้นกัญชาขายในพื้นที่มานาน จนล่าสุดถึงกับมีการเพาะพันธุ์ต้นกล้ากัญชาขายกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใด


จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าจับกุม ซึ่งโดยรอบบริเวณบ้านของนายสายันห์ฯ พบต้นกัญชาที่มีเพาะพันธุ์ใส่ถุงดำบ้าง ถุงปุ๋ยบ้าง วางซุกซ่อนอยู่ทั่วบริเวณบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดต้นกัญชาทั้งหมดจำวน 10 ต้น และบริเวณข้างบ้านยังพบร่องรอยการเพาะชำต้นกล้าอีกเป็นจำนวนมาก ก่อนควบคุมตัวนายสายันห์ฯ พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะโหมด เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท5 กัญชา โดยวิธีการปลูก และมีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย


และจากการที่เจ้าหน้าที่ได้สอบสวน นายสายันห์ฯ ผู้ต้องหา ยอมรับว่าต้นกัญชาที่พบทั้งหมดเป็นของตนเองจริง ซึ่งปลูกไว้ได้ประมาณหนึ่งเดือน

โดยอ้างว่าปลูกไว้เพื่อแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน และตนเองก็ทราบดีว่า การปลูกต้นกัญชานั้นผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากต้นกัญชาเริ่มหายาก การปลูกก็ยาก ตนจึงแอบลักลอบปลูกเพาะชำใส่ถุง ซุกซ่อนไว้ในทุกจุดรอบบ้านเพื่อเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกจับกุมได้ดังกล่าว.

เผยภาพจากกล้องวงจรปิด นาทีชายวัย27ปีตามมาง้อขอคืนดีอดีตแฟนสาว แต่ไม่สำเร็จ ชักปืนยิงฝ่ายหญิงบาดเจ็บ

กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพนาทีชายวัย27ปี ที่ตามมาง้อขอคืนดีอดีตแฟนสาวภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง แต่ไม่สำเร็จ ก่อนมีการทะเลาะกันอย่างรุนแรง

จนเพื่อนๆของฝ่ายหญิงลุกขึ้นห้ามปราม แต่สุดท้ายเหตุการณ์บานปลาย ชายวัย27ปี ได้เดินอ้อมไปทางด้านข้างของร้าน ก่อนชักปืนจ่อยิงฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บบริเวณหูด้านซ้าย ก่อนมีพลเมืองดีช่วยกันนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อรักษาอาการต่อไป


หลังจากนั้นทาง พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง ได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่องรอยคราบเลือดของผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือ นส.อัญธิดา ศรีทองช่วย อายุ 30 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณหูด้านซ้าย ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว


นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ ใกล้กันกับโต๊ะที่คนเจ็บนั่ง เจ้าหน้าที่ยังพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป


จากการสอบถามพนักงานที่อยู่ภายในร้านอาหารดังกล่าว ทราบว่า คนเจ็บพร้อมเพื่อนสาว 2 คนและสาวทอมอีก 1 คน ได้มานั่งดื่มกินกันอยู่ในร้านประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็มีผู้ชายเดินเข้ามาหาคนเจ็บที่โต๊ะ พร้อมโต้เถียงกันเสียงดัง และมีการลงไม้ลงมือกันตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่นำเสนอไปแล้วก่อนหน้า หลังจากนั้นไม่นานตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ลูกค้าที่นั่งอยู่ภายในร้านก็ต่างวิ่งหนีตายกันชุลมุน และเห็นผู้หญิงถูกยิงด้วย 1 คน ก่อนมีพลเมืองดีรีบนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล


แต่อย่างไรก็ตามหลังจากความชุลมุน ลูกค้าบางรายตกใจรีบกลับบ้านไปก่อน บางโต๊ะยังไม่มีการสั่งเช็คบิลด้วยซ้ำ เจ้าของร้านถึงกับเหงื่อตก แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีใครถูกลูกหลง บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพิ่มแต่อย่างใด


ส่วนผู้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่พอรู้เบาะแสบ้างแล้ว อีกทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน ก็สามารถบันทึกใบหน้าของคนก่อเหตุได้อย่างชัดเจน พร้อมเร่งติดตามตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เพิ่มเติม พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปได้ไม่ยาก.

งูจงอางเจ้าที่ โผล่เฝ้าบ้านสาวท้องแก่ตกใจเกือบช็อค

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุงเร่งลงพื้นที่จับงูจงอางยักษ์ หลัง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ ว่ามี งูจงอางตัวใหญ่ ความยาวเกือบ 5 เมตร

เลื้อยมานอนอยู่หลังบ้านเลขที่ 219 ม. 8 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบเจ้างูจงอางยักษ์ที่ว่านอนขดตัวอยู่บริเวณหลังบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาจับงูจงอางยักษ์ประมาณ 15 นาที ก็สามารถจับได้สำเร็จ ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
จากการสอบถามนายวสันต์ เปลาแก้ว อายุ 34 ปี เพื่อนบ้านที่เข้าช่วยเหลือสาวท้องแก่ ที่อยู่ในอาการตกใจหลังพบงูจงอางยักษ์อยู่หลังบ้าน

โดยนายวสันต์ฯ เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่ตนนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน จู่ๆก็มีหญิงสาวท้องแก่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านวิ่งมาหาตน ด้วยอาการตื่น ตกใจกลัว ก่อนบอกว่าเจองูตัวใหญ่เลื้อยมานอนอยู่ข้างประตูหลังบ้าน ตนเลยเข้าไปดู พบเป็นงูจงอางขนาดใหญ่ นอนขดตัวอยู่ แต่พอได้ยินเสียงผู้คน งูจงอางตัวดังกล่าวก็ชูคอขึ้นอย่างน่ากลัว

หลังจากนั้นตนและเพื่อนที่วิ่งมาดูด้วยกัน ได้ใช้ไม้คล้องไว้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือต่อไป


หลังจากมีผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ทราบเรื่อง ก็พูดและเชื่อกันว่า งูจงอางตัวนี้น่าจะเป็นงูเจ้าที่ และคงเป็นห่วงหญิงสาวท้องแก่ เลยมานอนเฝ้าอยู่ที่หลังบ้านดังกล่าว.

ชายวัย42ปี ไปขุดหาต้นไม้ชายป่าหายตัวปริศนา ก่อนมาพบกลายเป็นศพขึ้นอืด

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยป่าบอนเข้าตรวจสอบ บริเวณลำห้วยพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบศพขึ้นอืด เริ่มส่งกลิ่นเหม็น


เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างของนายหมัด หมัดอาดัม อายุ 42ปี ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ในสภาพศพขึ้นอืด เริ่งส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วพื้นที่ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า5วัน


จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ เล่าว่า เมื่อช่วงประมาณ 5 วันที่แล้ว ผู้ตายได้ออกจากบ้านมาเพื่อหาต้นไม้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4 นัด แต่ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งญาติได้ตามหาตัวผู้ตายมาตลอด และในวันนี้ชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นโชย จึงเดินตามกลิ่นจนพบผู้ตายนอนเสียชีวิตแล้ว


ส่วนสาเหตุการตาย หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสอบพยานบุคคล พยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งก่อน

หัวอกพ่อแม่แทบใจสลาย หนูน้อยวัย3ขวบพลาดท่าพลัดตกน้ำเสียชีวิต พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง ลงพื้นที่บ้านดอนกล่ำ ม.9 ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง

หลังได้รับแจ้งว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิต เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ต้องพบกับภาพสุดเศร้า เมื่อพ่อแม่ และญาติๆของหนูน้อยต่างนั่งกอดร่างหนูน้อยวัย3 ขวบ พร้อมร่ำไห้แทบขาดใจ ทราบชื่อหนูน้อยคนดังกล่าว คือน้องนะโม(ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง)ตรวจสอบ ตามร่างพบเพียงบาดแผลบริเวณหน้าผาก เป็นรอยเขียวฟกช้ำเท่านั้น


จากการสอบถาม นายองอาจ ศรีเพชร อายุ 48ปีเป็นตาของหนูน้อย และเป็นคนที่วิ่งมาช่วยเหลือหนูน้อยขึ้นจากคลองข้างบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนของหนูน้อยที่เสียชีวิต วิ่งไปหาตนที่บ้าน ซึ่งหากจากจุดที่หนูน้อยตกน้ำประมาณ 50 เมตร

พร้อมบอกว่าน้องนะโมตกน้ำ ตนตกใจจึงรีบวิ่งมาดู และกระโดดลงไปช่วยอุ้มร่างน้องนะโมขึ้นมาจากน้ำ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ แต่พอเจ้าหน้าที่มาถึงพบว่าน้องนะโนได้เสียชีวิตแล้ว


ญาติๆได้เล่าเพิ่มเติมว่า โดยปกติน้องนะโม ก็จะวิ่งเล่นซนกันตามประสาเด็ก โดยในละแวกนั้นก็มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันประมาณ 4-5 คน ก็จะวิ่งเล่นกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งบริเวณข้างบ้านก็มีลำคลองอยู่ ระดับความลึกอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร แต่ก็ไม่เคยมีใครลงเล่นน้ำแต่อย่างใด จนกระทั่งวันนี้น้องนะโมก็ไปวิ่งเล่นซนตามปกติ และคงพลาดท่าตกลงไปในคลอง จนเสียชีวิตดังกล่าว


อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ทางญาติก็ได้นำร่างของน้องนะโม ไปชันสูตรเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนนำศพมาประกอบพิธีทางศาสนากันต่อไป.