เซียนพนันคอตก หลังถูก ตร.รวบตัวได้คาวงไพ่

พ.ต.อ.ยศวรรธ์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย ร.ต.อ.จำเริญ อินทร์แก้ว รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ6 ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปำ บุกรวบเซียนพนันได้ 6 ราย พร้อมของกลาง คาวงไพ่ ในพื้นที่ ม.8 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง


ผลการจับกุมสืบเนื่องมาจาก มีการร้องเรียนว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการลักลอบเล่นการพนัน ทั้งที่ในช่วงนี้ก็มีประกาศสั่งห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมเล่นการพนันกัน แต่ยังคงมีนักพนันฝ่าฝืนและลักลอบเล่นการพนันกันไม่เว้นแต่ละวัน และขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม เหล่าบรรดานักพนันวงแตก วิ่งหนีกระเจิง บางรายวิ่งหนีเข้าห้องนอนใส่กลอนประตูเรียบร้อย บ้างก็วิ่งเข้าห้องน้ำ แต่สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ตามรวบได้หมดทั้งวง รวม 6 ราย ได้แก่ นางจรรยา โมราสิทธิ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 ม.8 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งรับเป็นเจ้าบ้านที่เปิดบ้านพักให้ร่วมเล่นการพนันกัน และยังมี นางเขียว แสงแก้ว อายุ 41 ปี น.ส.สายฝน โมราสิทธิ์ อายุ 25 ปี นายพัน เลื่อนแป้น อายุ 62 ปี นายสุทธิพงศ์ สงขวัญ อายุ 38 ปี และนายบุญธรรม รักษ์แก้ว อายุ 50 ปี นักพนันทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ พร้อมด้วยของกลาง ไพ่ จำนวน 1 สำรับ เงินสด จำนวนหนึ่ง และไม้สำหรับเขี่ยไพ่ จำนวน 6 อัน


ถูกแจ้ง2ข้อหาหนัก ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่ผ่องไทย พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้อนุญาต ชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆหรือกระทำการใดๆอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ก่อนคุมตัวนักพนันทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำปำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

พัทลุงสัญญาณดีไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในช่วง14วัน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ล่าสุดพบว่า ตั้งแต่ช่วงวันที่ 16 มี.ค.63 ถึง วันที่ 9 เม.ย.63 มียอดผู้ติดเชื้อเพียง 14 ราย และรักษาหายกลับบ้านได้แล้วทั้งหมด และตอนนี้ยังคงไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเลย แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่พัทลุง จะดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องต่อไป


โดยประชาชนเองยังต้องตระหนัก และร่วมมือ ร่วมใจปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่ว่า จะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ล้างมือ กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน และเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปอีกสักระยะหนึ่ง


และในวันนี้ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จนถึงขณะนี้ จังหวัดพัทลุง ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่มาเป็นระยะเวลา 14 วันแล้ว และฝากขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงทุกคน ภาครัฐทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศของจังหวัดอย่างเข้มงวด และต้องขออภัยในความไม่สะดวกบริเวณจุดตรวจระหว่างจังหวัด ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการนำเชื้อ และลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย


สำหรับมาตรการผ่อนปรน ต้องรอดูสถานการณ์ จากทางรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. จะเป็นผู้พิจารณาโดยประเมินจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มหรือลด พื้นที่จังหวัดข้างเคียงต่อไป ส่วนมาตรการการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 นี้ ขณะนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานส่วนราชการอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งจัดทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ เร่งลงสำรวจบุคคลที่ได้รับผลกระทบแล้วทั้ง 11 อำเภอ เพื่อเตรียมมาตรการ การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป.

รวบเด็กรับจ้างเดินยา ได้พร้อมของกลางยาบ้าเกือบร้อยเม็ด อ้างหาเงินเสพยาและเที่ยวเตร่

ร.ต.อ.ประเสริฐ วัฒน์หนู รองสารวัตรสืบสวน สภ.บางแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ การข่าวและความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง และชุด ฉก.ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เข้าจับกุม วัยรุ่นชาย อายุ 19 ปี ได้ในพื้นที่บางแก้ว พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 90 เม็ด ก่อนซัดทอดเพื่อนชายอีกคน


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมคุมตัววัยรุ่นชายคนดังกล่าว บุกตรวจค้นบ้านเพื่อนชายอีกคน ทราบเพียงชื่อเล่น คือนายแม็ค อยู่ในพื้นที่วังหลัก ม.4 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เจ้าตัวไหวตัวทันหลบหนี พบเพียงผู้เป็นแม่ที่กำลังเลี้ยงแพะอยู่ข้างบ้าน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการพูดคุยกับผู้เป็นแม่ และขออนุญาตตรวจค้นภายในบ้าน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมแต่อย่างใด


ก่อนคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม วัยรุ่นชายวัย 19 ปี ให้การรับสารภาพ ว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเองจริง เพิ่งไปรับมาจากเอเย่นต์ในพื้นที่แถวบ้าน กำลังเตรียมนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.บางแก้ว แต่มาถูกรวบตัวได้เสียก่อน ก่อนยอมรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ตนรับจ้างเดินยาบ้าให้กับกลุ่มเอเย่นต์ในพื้นที่มานาน เพื่อแลกกับค้าจ้างครั้งละไม่กี่บาท บวกกับตนเองก็ติดยาบ้าและน้ำต้มพืชกระท่อมอย่างหนัก

อ้างจึงจำเป็นต้องหาเงินโดยการรับจ้างส่งยาบ้า ส่วนเงินที่เหลือก็นำไปใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ตามประสาวัยรุ่น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัววัยรุ่นคนดังกล่าว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

กองสืบฯพัทลุงเปิดปฏิบัติการฟ้าสางระดมกวาดล้าง ตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย 5 จุด ที่พบกลุ่มคนร้ายมักก่อเหตุยิงปืนข่มขู่ ยิงบ้านบ่อยครั้ง

พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยพ.ต.ท.จตุรงค์ จงหวัง รอง ผกก.สส.ฯพ.ต.ท.ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ชป.การข่าวและความมั่นคง ตร.ชุด ชปส. ชุดวิเคราะห์ข่าว กก.สส. ตร.ชุดสืบสวน สภ.ลำปำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม เกือบ 50 นาย

ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้าง และวางแผนตรวจค้น พื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ ต.ลำปำ จากกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงบ้าน ของนายละเอียด ภัยมณี เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 ที่ผ่านมา โดยนำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทลุง เข้าขอตรวจค้นในครั้งนี้ เพื่อหาวัตถุ พยาน หลักฐานเบื้องต้น ที่จะนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับต่อไป


ซึ่งจากการตรวจเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 5 จุด สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยมาได้หลายคน เพื่อสวบสวนเพิ่มเติมอีกทั้งตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ ปลอกกระสุน ยานพาหนะที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุ เสื้อผ้า และอุปกรณ์อื่นๆอีกหลายรายการ ที่สามารถเชื่อมโยงเพื่อหาคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมายได้ในเร็วๆนี้


ทางด้าน พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า การระดมกวาดล้างในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ได้มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ ยิงบ้าน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สิน และยังทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความหวาดกลัว ทางผู้บัญชาการเลยสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง เร่งติดตามบุคคลที่ก่อเหตุทั้งหมด มารับโทษดำเนินคดีให้ได้.

รวบเจ๊จุก เอเย่นต์ค้ายานรกรายสำคัญในพื้นที่บางแก้ว พร้อมเงินล่อซื้อได้จำนวนหนึ่ง

พ.ต.ท.สุทธิชัย ซ้วนล่อง สว.สส.สภ.บางแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชป.การข่าวและความมั่นคงกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด ฉก.ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง บุกรวบเจ๊จุก หรือ นส.จินตนา คงเกิด อายุ 34 ปี ได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 112 ม.5 บ.นาหม่อม ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง พร้อมด้วยของกลางยาบ้าและเงินล่อซื้อจำนวนหนึ่ง


จากการสอบสวน ทราบว่า เจ๊จุกหรือ นส.จินตนาฯ ผู้ต้องหา ได้ลักลอบขายยานรกให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่มานาน แต่รอดการจับกุมมาได้ทุกครั้ง จากการตรวจค้นภายในบ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมแต่อย่างใด พบเพียงอุปกรณ์การเสพยาบ้า ถุงใสสำหรับบรรจุยาบ้าจำนวนมาก ซึ่งเจ๊จุกฯ ยอมรับว่า อุปกรณ์ที่พบเป็นของตนเอง มีไว้เพื่อเสพยานรกดังกล่าว
เจ๊จุกหรือ นส.จินตนาฯ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ตนได้ลักลอบขายยานรกนี้มานานแล้ว โดยรับมาจากเอเย่นต์ในพื้นที่ในราคาเม็ดละ 30 บาท นำมาแบ่งขายให้กลุ่มวัยรุ่นในราคาเม็ดละ 80 บาท กำไรเท่าตัว แต่รายได้ก็ยังไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว อีกทั้งตัวเองก็ติดยานรกนี้งอมแงม ต้องเก็บยาบ้าบางส่วนไว้เพื่อเสพเองอีกด้วย


หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ก็จะเร่งสืบสวน ขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ายานรกที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนคุมตัว เจ๊จุกหรือ นส.จินตนาฯ ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้วดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ จำหน่ายและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าโดยผิดกฎหมาย.

ชาวนาร้องชลประทาน เร่งปล่อยน้ำช่วยเหลือด่วน หลังนาข้าวขาดน้ำ

ชาวนาร้องชลประทาน เร่งปล่อยน้ำช่วยเหลือด่วน หลังนาข้าวขาดน้ำ ข้าวที่กำลังออกรวงแห้งเหี่ยวเสียหายกว่า 6 พันไร่ และพื้นที่ส่วนใหญ่เริ่มประสบภัยแล้ง น้ำในลำคลองหลายแห่งเริ่มแห้งขอด


จากกรณีที่ฝนทิ้งช่วงยาวนานในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ส่งผลให้หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง มาเป็นเวลานาน เกษตรกรทั้งชาวสวนและชาวนา ต่างประสบกับปัญหาดังกล่าว และขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 อ่างของพื้นที่ จ.พัทลุง ระดับน้ำลดต่ำสุดในรอบหลายปี


นอกจากนี้ ระดับน้ำในลำคลองสายหลัก จำนวนหลายสายที่มีต้นน้ำมาจากเขาบรรทัด ที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ของเกษตรกรชาวสวนและนาข้าว พบเริ่มแห้งขอดเห็นเนินทราย เกษตรกรไม่สามารถนำน้ำในลำคลองมาใช้ได้เลย ส่งผลกระทบอย่างหนัก ไม้ผลกำลังยืนต้นตาย
โดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ ต.ปรางหมู่และ ต.เขาเจียก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวอันดับต้นๆของจังหวัดพัทลุง ขณะนี้ประสบกับปัญหานาข้าวที่กำลังออกรวง เริ่มแห้งเหี่ยวชาวนาได้รับความเสียหายกว่า 6 พันไร่

นับเป็นวิกฤติภัยแล้งในรอบ 20 ปีเลยก็ว่าได้ น้ำในนาข้าวแห้งขอด ดินแตกระแหงไม่สามารถนำน้ำจากลำเหมือง หรือน้ำในลำคลองมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้เลย เนื่องจากแหล่งน้ำทุกแห่ง ก็แห้งไม่มีน้ำเช่นกัน คาดว่าหากฝนทิ้งช่วงนานกว่านี้ หรือทางกรมชลประทานไม่ปล่อยน้ำลงมาบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรบ้างในช่วง 1 ถึง 2 สัปดาห์นี้ นาข้าวจะได้รับความเสียหายทั้งหมดอย่างแน่นอน


ดังนั้นเกษตรกรทั้งสองตำบล ทั้งในพื้นที่ ต.เขาเจียกและ ต.ปรางหมู่ ของ อ.เมือง จ.พัทลุง จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องรีบเข้าให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนต่อไป


ทางด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เผยขณะนี้ พื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ดังนั้นจึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่สำรวจ โดยเฉพาะหน่วยงานของสำนักงานบรรเทาและสาธารณะภัยจังหวัดพัทลุง และสำนักงานชลประทานจังหวัดพัทลุง เร่งสำรวจแหล่งน้ำพร้อมเข้าช่วยเหลือเกษตรกรทั้งชาวสวนและชาวนา ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ อย่างเร่งด่วนแล้ว.

ประยุทธ์ รับมีเงินเยียวยา เราไม่ทิ้งกัน แค่ 1 เดือน ต้องรอตัดงบ กู้ 1 ล้านล้าน

   วันที่ 15 เมษายน 2563 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ใจความสำคัญกล่าวถึงเรื่อง มาตรการชดเชย เงินที่รัฐบาลจะนำมาเยียวยานั้นมาจากงบกลางจำนวน 50,000 ล้านบาท เดิมจะเยียวยา 3 ล้านคน ซึ่งสามารถเยียวยาได้ 3 เดือน หรือ 15,000 บาทต่อคน แต่เมื่อจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com มีมากถึง 9 ล้านคน ทำให้รัฐบาลมีเงินเยียวยาได้เพียงเดือนเดียว ในจำนวน 9 ล้านคน

          สำหรับกลไลการเข้าถึงการเยียวยาของรัฐบาลเพื่อให้ได้รับเงินจำนวน 5,000 บาท นั้น รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินหลายส่วน ส่วนแรก จากการเจียดเงินงบประมาณแต่ละกระทรวงร้อยละ 10 นั้น ต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาคาดว่าประมาณเดือนมิถุนายน 2563 จะได้งบประมาณในส่วนนี้ 100,000 ล้านบาท


            ส่วนกรณีรัฐบาลออก พ.ร.บ.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งตามขั้นตอนต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ และวุฒิสภา ใช้เวลาหลายเดือน แต่คาดว่าประมาณปลายเดือนเมษายน หรือเดือนพฤษภาคม 2563 ยอมรับว่า เรามีแค่ตัวเลขในการเยียวยา แต่ไม่มีเม็ดเงินที่แท้จริง จำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับในการนำมาใช้จ่ายเยียวยาประชาชน

            ขณะที่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กำหนดจะหมดภายในที่ 26 เมษายน 2563 เข้าใจว่าทุกคนได้รับผลกระทบ อาจจะมีการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ไม่ใช่ทีเดียวทั้งหมด แต่ต้องให้คณะกรรมการวิเคราะห์และประเมินภายในสิ้นเดือนเมษายนอีกครั้ง ว่าจะมีการต่ออายุหรือขยายมาตรการหรือไม่

ชาวบ้านสร้างหุ่นไล่กา ป้องกันโรคโควิด-19

เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้าน บ้านชายเขาจิ้งโจ้ พื้นที่ ม.9 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง หลังจากทราบข่าวว่าชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันสร้างหุ่นไล่กา เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง บริเวณหน้าศาลาหมู่บ้าน ตรงสามแยกใจกลางของชุมชน พบหุ่นไล่กาตัวหนึ่ง ถูกนำมาวางไว้ตรงสวนหย่อมหน้าป้ายของหมู่บ้าน พร้อมมีข้อความแขวนห้อยคอไว้ว่า “หมู่บ้านนี้ ไม่มีโรคโควิด-19 “ สร้างรอยยิ้ม ให้กับผู้ที่ผ่านไป มาได้เป็นอย่างดี


หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง บ้านของ นางลำยวง พลับเลื่อน อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม. 9 ต.ชัยบุรี คนที่มีความคิดสร้างหุ่นไล่กาขึ้น โดยนางลำยวงฯ เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 เม.ย.63 ที่ผ่านมา

ตนได้ฝันเห็นชายแก่แปลกหน้า มีหนวดเครา มาเข้าฝันตน พร้อมบอกว่าถ้าต้องการให้คนในหมู่บ้านรอดพ้นจากโรคโควิด-19 นี้ ต้องสร้างหุ่นไปวางไว้ใจกลางของหมู่บ้าน พร้อมเขียนข้อความประมาณว่าหมู่บ้านนี้ปลอดโรคโควิด-19 ด้วย รุ่งเช้าตนและเพื่อนบ้านจึงได้ช่วยกันทำหุ่นไล่กาไปวางไว้ตามที่มีคนมาเข้าฝันดังกล่าว


อย่างไรก็ตาม ที่ชาวบ้านสร้างหุ่นไล่กานี้ขึ้น ก็เป็นความเชื่อตามโบราณ หากหมู่บ้านหรือพื้นที่นั้นประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ และถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งของหมู่บ้าน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.พัทลุง ขณะนี้ยังคงมียอดผู้ป่วยคงที่ อยู่ที่ จำนวน 14 ราย รักษาหายกลับไปกักตัวต่อเนื่องที่บ้านได้แล้ว จำนวน 6 ราย และยังคงกระจายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของรัฐอีก จำนวน 8 ราย พื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาดมากสุด คือในพื้นที่ ของ อ.กงหรา มียอดผู้ป่วย 7 ราย จากยอดผู้ป่วยของจังหวัดทั้งหมด 14 ราย.

นักพนันไม่เข็ดหลาบ ถูกจับรายวัน ยอมฝืนเคอร์ฟิว

นักพนันไม่เข็ดหลาบ ถูกจับรายวัน ยอมฝืนเคอร์ฟิว หลัง ตร.กองสืบบุกรวบเซียนไฮโล บางรายหนีมุดมุ้ง อ้างง่วงนอน


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วย ร.ต.อ.จำเริญ อินทร์แก้ว รอง สว.กก.สส. ร.ต.ท.นิติภูมิ แสงประดับ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชป.การข่าวฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ตะโหมด บุกรวบเซียนไฮโล ได้ 8 ราย พร้อมของกลาง ขณะลักลอบเล่นการพนันกันบริเวณในบ้านเลขที่ 29 ม.7 บ.ควนเสาธง ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง


ผลการจับกุมสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชป.การข่าวฯ ได้มีการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการลักลอบเล่นการพนันกัน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีประกาศ ห้ามเล่นการพนันและมั่วสุมกัน เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้วก็ตาม
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม นักพนันเซียนไฮโล ต่างวิ่งหนีกระจัดกระจาย บางรายถึงขนาดมุดมุ้ง แกล้งทำเนียนเข้านอนไปก็มี แต่สุดท้ายไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามรวบได้ทั้งหมด


จากการสอบสวน ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของนางสาว อำมร สังแย้ม อายุ 63 ปี เปิดบ้านพักเพื่อให้นักพนันเข้ามาลักลอบเล่นการพนันกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ถูกรวบได้พร้อมนักพนัน รวม 8 ราย พร้อมของกลางเป็นลูกเต๋าไฮโล จำนวน 3 ชุด ถ้วยพร้อมฝาครอบ จำนวน 1 ชุด แผ่นพลาสติกบอกแต้มสำหรับให้ลูกค้าแทงพนัน กระเป๋าเป้สีน้ำตาลแบบมีซิปพร้อมสายสะพาย จำนวน 1 ใบ ที่ไว้สำหรับใส่ลูกเต๋าสำรอง และเงินสดจำนวนหนึ่ง ถูกแจ้ง 2 ข้อหาหนัก คือร่วมกับพวกที่หลบหนีร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไฮโล พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้อนุญาต และฝ่าฝืนข้อกำหนด พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ก่อนควบคุมตัวนักพนันเซียนไฮโล ทั้ง 8 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะโหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ตร.ตามรวบได้ทันควัน หลังหนุ่มวัย 30 ปีใช้เหล็กแหลมแทงกิ๊กใหม่ของแฟนสาวเสียชีวิต ปมเหตุหึงหวง

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และ ร.ต.อ.จำเริญ อินทร์แก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทะเลน้อย ตามรวบตัว นายการันตี แจ้งชูศักดิ์ อายุ 30 ปี หลังก่อเหตุฆ่าคนตายแล้วหลบหนี ก่อนตามไปรวบตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.9 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ขณะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน


หลังควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายการันตีฯ มาสอบสวน จนให้การรับสารภาพ แล้วนำไปชี้จุด ที่ นายการันตีฯ ผู้ต้องหา ได้นำท่อนเหล็กที่ใช้แทง นายสมพงค์ ศรีนุ่น อายุ 47 ปี เสียชีวิต ไปทิ้งยังบริเวณด้านหลังของเทศบาลตำบลพนางตุง


นายการันตีฯ ผู้ต้องหา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปหาแฟนสาวที่บ้านเช่าในพื้นที่ ม.13 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เมื่อไปถึงเจอผู้ตายและแฟนสาว อยู่ภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าว ก็มีการพูดคุยกันสักพัก ก่อนที่ตนจะคว้าท่อนเหล็กที่ใช้สำหรับแทงปาล์มน้ำมัน แทงเข้าบริเวณลำคอของผู้ตายไปหนึ่งครั้ง จนเจ้าของบ้านเช่าที่เห็นเหตุการณ์อออกมาห้ามปราม ตนเลยขับรถหลบหนี ส่วน นายสมพงค์ ศรีนุ่น อายุ 47 ปี ไม่ได้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ยังสามารถวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่ด้วยสภาพบาดแผลที่เข้าจุดสำคัญ จึงไม่สามารถทนพิษบาดแผลและนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าร้านขายข้าวแกง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร


ส่วนปมความขัดแย้ง มาจากความหึงหวงผู้ตายกับแฟนสาว ซึ่งจากการสอบสวนเพิ่มเติม ทราบว่า นายการันตีฯ ผู้ต้องหา เคยอยู่กินกับแฟนสาว แล้วตัวนาย การันตีฯ ผู้ต้องหาได้ติดคุกไป จนแฟนสาวได้มาชอบพอกับผู้ตายและมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน แต่หลังจากที่ นายการันตีฯ ผู้ต้องหาออกมาจากคุกได้ไม่นาน ก็ยังแวะเวียนมาหาแฟนสาว และยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเช่าบ้านให้อีกด้วย.