แม่ค้าสาวสวยใจบุญ ลุยแจกมะม่วงให้แก่ผู้ป่วยโควิดทั่วพัทลุง มากถึง 2.5 ตัน

สวนกระแสมะม่วงราคาตกต่ำ แม่ค้าสาวสวยใจดี ผุดไอเดียคืนกำไรให้ลูกค้า สั่งมะม่วงมา กว่า 2.5 ตัน หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงแก้วขมิ้น มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงเขียวเสวย(เขียว-สะ-เหวย) พร้อมแพ็คถุง ถุงละ 2 กิโล ลุยแจกให้กับผู้ป่วยโควิด ที่ต้องกักตัวอยู่ตามโรงพยาบาลสนามต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาลพัทลุง และโรงแรมวังโนรา

นอกจากนี้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ก็สามารถให้ญาติเดินทางมารับได้ที่บริเวณ ถ.ราเมศวร์ ต.คูหาสวรรค์ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เยื้องธนาคารกรุงเทพสาขาพัทลุง โดยจะให้คนละ 2 ถุงๆละ 2 กิโลกรัม เพื่อจะได้แจกจ่ายให้ทั่วถึงกับชาวบ้านที่เดินทางมารอรับอยู่เป็นจำนวนมาก

นางแก้วใจ มีแก้ว อายุ 40 ปี เล่าว่า สงสารชาวสวนมะม่วง เนื่องจากปีนี้ราคามะม่วงตกต่ำ ส่งออกนอกก็ไม่ได้ เลยช่วยเหมามะม่วงจากชาวสวน เพื่อมาแจกให้กับคนพัทลุง โดยเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 บางครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำก็ลำบากมากแล้ว พอมีโรคระบาดมาอีกเหมือนเป็นการซ้ำเติมความลำบากเข้าไปอีก ซึ่งมะม่วงที่เอามาแจกในรอบนี้ มีจำนวน 2.5 ตัน ช่วงเช้าก็ได้นำไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลพัทลุง กับโรงพยาบาลสนามที่โรงแรมวังโนรา

นอกจากนี้ นางแก้วใจฯ แม่ค้าสาวสวยใจดี ยังฝากส่งกำลังใจให้กับคนที่กำลังป่วยโควิด-19 และชาวสวนมะม่วง ว่าอย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะสู้และผ่านเรื่องเลวร้ายไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่อะไรก็ดูแพงตามกันไปหมด เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ อีกทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่ในความโชคร้ายต่างๆ ก็ยังมีเรื่องราวที่ดี มีคนใจดี คอยเป็นสะพานบุญช่วยเหลือ ส่งต่อเรื่องราวดีๆ ทำให้คนที่ท้อ หมดหวัง ยังยิ้มได้ในทุกวัน

สวนกระแสราคามะม่วงตกต่ำ ชาวบ้านพญาขันรวมกลุ่มปอกมะม่วงสร้างรายได้เสริมหลักหมื่นต่อวัน

ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลพญาขัน อ.เมือง จ.พัทลุง ประมาณ 5หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่ ม.5 ม.7 ม.8 ม.9 และ ม.10 หันมาหารายได้เสริม โดยการรับจ้างปอกมะม่วงเบา หรือมะม่วงบ้านสร้างรายได้ รายวันต่อคนได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มจากมีแม่ค้าคนกลางรับซื้อมะม่วงเบามาจากชาวสวน ก่อนจ้างชาวบ้านที่สนใจมาปอกเปลือกมะม่วง เพื่อนำไปแช่อิ่มขายอีกทอดหนึ่ง

นางอุไร หมุนจำนง อายุ 55 ปี แม่ค้าร้านขายของชำ เล่าว่า ตนเปิดร้านขายของริมถนนสายพลายทอง-เขาแดงมานาน ช่วงหลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ของเริ่มขายยากขึ้น แต่โชคดีเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 65 ที่ผ่านมา มีแม่ค้าที่รับซื้อมะม่วงจากชาวสวน เพื่อไปทำมะม่วงแช่อิ่มส่งขาย ได้มาจ้างชาวบ้านในพื้นที่ปอกเปลือกมะม่วง จนมีการจ้างกันมากขึ้น ในหลายพื้นที่ของตำบลพญาขัน โดยราคาจ้างอยู่ที่กิโลกรัมละ 6-8 บาท สร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน ชาวบ้านเองก็มีรายได้วันละ 400-1200 ต่อหนึ่งครอบครัว
นางอุไรฯ เล่าเพิ่มเติมว่า ร้านขายของชำก็ยังเปิดขายปกติ และก็มีรายได้เสริมจากการปอกมะม่วงไปด้วยอีกทางหนึ่ง ถือเป็นการสวนกระแสของปัญหาราคามะม่วงตกต่ำอยู่ในขณะนี้อีกด้วย.

กองปราบคุมตัว ฉุย เขาจันทร์ สอบเพิ่ม ขณะเจ้าตัวยังปฏิเสธไม่ได้ยิงตำรวจเสียชีวิต

ช่วงบ่ายวันนี้ ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ตำรวจกองปราบ นำตัวนายจำรัส รักจันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ พร้อมสมุนนายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน และ น.ส.น้ำ(นามสมมุติ) แฟนสาวของ ฉุย เขาจันทร์ มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ. ภาคิน ณ ระนอง รอง.ผบก.ภจว.พัทลุง พ.ต.อ.ยศวรรษย์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวน ภจว.พัทลุง และพนักงานสอบสวน สภ.เขาชัยสน โดยมีญาติของนายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน ทั้งพ่อ แม่ และพี่สาว แต่ไร้วี่แววญาติของนายฉุย เขาจันทร์

หลังจาก พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. สามารถติดตามจับกุมตัวนายจำรัส รักจันทร์ หรือ ฉุยเขาจันทร์ มือปืนตามประกาศจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลำดับ 145 ได้สำเร็จ หลังสืบทราบว่าได้หลบหนีออกจากป่าเขาคาว พื้นที่ หมู่ 9 ต.ชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เข้ามากบดานในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านรามคำแหง พร้อมลูกสมุน คือ นายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาในคดียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เสียชีวิต รวมทั้ง ยังควบคุมตัว น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แฟนสาวของฉุย รักจันทร์ ที่อยู่ด้วยกันภายในห้อง เมื่อวันที่ 25 มี.ค.65 ที่ผ่านมา หลังวางแผนหลอกล่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ตรวจค้นอยู่ที่พัทลุง และ สงขลา ส่วนตัวหนีเข้ามากบดานอยู่ในกรุงเทพฯ

ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้นำตัวนายจำรัส รักจันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ พร้อมนายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน และน้องน้ำฝน กลับมาสอบสวนเพิ่มเติม โดยนายฉุย ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเพิ่มเติมนานเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิงตำรวจกองปราบจนเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจสอบเพิ่มเติมเรื่องอาวุธปืนนายของนายฉุย ฯ โดยเฉพาะอาวุธปืนยาวชนิด เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนสั้นอีกจำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเกิดเหตุ ซ่อนหรือทิ้งที่ไหนนั้น ปรากฎว่าในเวลาต่อมา นายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน ได้สารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจว่าอาวุธปืนขนาด .357 ซึ่งเป็นของนายฉุย ฯ แต่ฝากไว้ที่ตนเองนั้น ได้นำซ่อนที่ไว้บริเวณป่าหญ้าใกล้สวนปาล์ม จุดเดียวกันกับที่ตำรวจ ตรวจค้นได้อาวุธปืนสงครามไปได้จำนวน 1 กระบอก ไปเมื่อก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง

ขณะที่น้อง น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) แฟนสาวของนายฉุย ฯ เล่าว่า ขณะหลบหนีจากพื้นที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 65ที่ผ่านมา ไปกับรถยนต์เก๋งสีขาว ไปถึง กทม.ตอนค่ำ และมีเพื่อนของนายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน พาไปเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว พร้อมซื้อเสื้อผ้าซึ่งเป็นชุดสีแดง ที่เหมือนกันทั้งหมดมาให้สวมใส่ เนื่องนายอัฐพล หรือรวย ใหม่อ่อน เป็นคนที่ชอบสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง
สำหรับ นส.น้ำ(นามสมมุติ) บอกอีกว่า ตนได้อยู่กับนายฉุย ฯ ตลอดเวลา แม้กระทั่งวันเกิดเหตุ ตนก็นั่งรถคันเดียวไปกับนายฉุย ฯ โดยอ้างว่านายฉุยฯ ไม่ได้ยิงตำรวจจนเสียชีวิต เพราะตอนนั้นนายฉุยฯ ทำหน้าที่ขับรถเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

และในวันนี้หลังจากสอบสวนแล้วเสร็จ ทางตำรวจก็ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ สภ.เมืองพัทลุง ก่อนที่จะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมในวันนี้พรุ่งนี้(วันที่ 27 มี.ค.65) หากทางผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ก็จะนำตัวไปชี้จุด ทำแผนประกอบคำรับสภาพภาพยังจุดเกิดเหตุต่อไป.

รวบเพิ่มได้อีก1 แก๊งค์ “ไอ้ฉุย”ตร.กองปราบหิ้วตัวสอบเพิ่ม

จากกรณีการไล่ล่าคนร้ายแกงค์”ไอ้ฉุย” หรือนายจำรัส รักจันทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับสถานีตำรวจภูธรป่าบอนจังหวัดพัทลุงพที่ยังคงหลบหนี หลังปะทะตำรวจกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ทำให้ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามเสียชีวิต และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย

ล่าสุด บ่ายวันนี้มีรายงานว่าตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้ควบคุมตัวกุม นายเกรียงไกร หรือหนึ่ง ชัยพูล อายุ 27ปี หนึ่งในคนร้ายที่หลบหนี ซึ่งทางญาติได้ประสานพาเข้ามอบตัวที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จากนั้นได้ควบคุมตัวไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง สอบปากคำเพิ่มเติม

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ได้จับกุมนายพงศกร หรือเจ สุวรรณมะโน อายุ 22ปี ไปแล้ว 1ราย

ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ประกอบด้วย นายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญและเป็นมือปืนรับจ้างลำดับที่ 145 ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นาย อัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นคนสนิทของนายจำรัสนั่นเอง

พล.ต.ต.วัลลพ จำนงอาษา รอง ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ด้านผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัววันนี้ ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นั่งอยู่ในรถมาสด้าสีดำเป็นคันเดียวกับที่นายฉุย หรือนายจำรัส รักจันทร์ ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ตอนนี้นั่งมาด้วย จากการติดต่อเข้ามอบตัวของนายเกรียงไกรฯ เนื่องจากตำรวจได้มีการตรวจค้นพื้นที่ทุกจุดที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายใช้ซ่อนตัวอย่างหนัก ทำให้ทางญาติกลัวว่าจะมีการวิสามัญ จึงให้ผู้นำในพื้นที่ประสานพาเข้ามอบตัว แต่จากการสอบปากคำนายเกรียงไกรฯ ยังให้การสับสน

พล.ต.ต.วัลลพฯ รอง ผบช.ภ.9 กล่าวเพิ่มเติม ฝากไปยังบุคคลที่ยังคงให้การช่วยเหลือทางกลุ่มนายฉุยฯ ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนี หากพบว่ามีการให้ที่พักพิง หรือช่วยเหลือก็จะมีความผิดด้วยเช่นกัน

รมว.คมนาคม ควงคู่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา-พัทลุง ด้วยงบจัดสร้างเกือบ 5 พันล้านบาท

เมื่อเวลา 09.50 น.ของวันนี้(18 มี.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ควงคู่มาพร้อมกับนางนาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(นายอนุทิน ชาญวีรกุล) ร่วมเป็นเกียรติในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา-พัทลุง ณ บริเวณพื้นที่ ม.1 บ้านแหลมจองถนน ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง บนถนนสาย พท.4004 แยกทางหลวงหมายเลข 4081 – บ้านฝาละมี ช่วง กม. ที่ 3+300

โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา-พัทลุง จุดเริ่มต้นสะพานตั้งแต่พื้นที่ ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ไปจนถึง ต.เกาะใหญ่ อ.กระเเสสินธุ์ จ.สงขลา ระยะทางรวม 7 กิโลเมตร สามารถย่นระยะเวลาการเดินทางจาก 2 ชั่วโมง 30 นาที เหลือแค่ 15 นาที เท่านั้น

นอกจากนี้บริเวณราวสะพานได้มีการออกแบบให้มีความสวยงาม โดยนำรูปแบบจิตรกรรมมโนราห์ของท้องถิ่นพัทลุงมาประยุกต์ ประกอบกับลักษณะทางโครงสร้างที่แตกต่าง เพื่อให้จุดดังกล่าวเป็นอีกแห่งแลนด์มาร์คใหม่ด้านการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไปด้วย

ปัจจุบันกรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการสำรวจออกแบบโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ ผ่านการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งเเวดล้อม จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อม หรือที่เรียกว่า คชก. ของสำนักนโยบายเเละเเผนทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม หรือ สผ. แล้วเรียบร้อย เหลือแค่ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และในปี 2566 ได้จัดทำคำขอภายในกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเตรียมเสนอของบฯ จำนวน 4,841 ล้านบาท โดยจะใช้เงินกู้และงบสมทบจากงบประมาณประจำปี

คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปี 2566 และจะแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2569

แม่ค้าส่งปลาดวงเฮงถูกรางวัลที่1รับ12ล้าน

ม่ค้าส่งปลาดวงเฮงวัย 27 ปี ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน2 ใบ รับ 12 ล้านบาท ซื้อในระบบออนไลน์จากเฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” โดยสั่งซื้อเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 เผยเงินที่ได้จะปลดหนี้ทั้งของพ่อของตนเองจำนวนกว่า 1 ล้านบาท พร้อมสร้างบ้านใหม่และเป็นทุนให้ลูกเรียน

เมื่อช่วงเย็นวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบผู้ถูกรางวัลที่1 ในพื้นที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ทราบชื่อคือ นางสาวจันทิมา พราหมวงศ์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 1 ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งอาศัยอยู่กับสามี และลูก จำนวน 2 คน พร้อมพ่อ แม่ พี่สาว และหลาน รวม 10 คน ในสภาพบ้านที่เก่า นอกจากนั้นยังมีญาติๆที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาแสดงความดีใจ ซึ่งนางสาวจันทิมา พราหมวงศ์ มีอาชีพขายค้าโดยค้าปลาส่งขายที่จังหวัดตรัง สำหรับลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ซื้อนั้นได้ซื้อจากระบบออนไลน์จากเฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” และทันทีที่รางวัลที่ 1 ออก ทางเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” แจ้งให้ทราบทันที่ว่าถูกรางวัลที่ 1 หลังจากรับแจ้งก็เปิดดูโทรศัพท์พบว่าตรงกับเลขที่ซื้อจริงๆ จึงดีใจเป็นที่สุด


นางสาวจันทิมา พราหมวงศ์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 1 ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ผู้ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 737867 จำนวน 2 ใบ รับ 12 ล้านบาท ซื้อในระบบออนไลน์จากเฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” ยกโทรศัพท์ที่สั่งลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลขดังกล่าว กล่าวตนเองไม่ได้ฝันไม่ได้หรือเฝ้าตัวเลขใดๆเลย เพียงแต่ชอบเลขท้าย 67 เท่านั้น หลังจากรางวัลออกตนเองได้เปิดดูลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐ ในโทรศัพท์ทันที่เนื่องจากตนได้ซื้อจากระบบออนไลน์จากเฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” สักพักทางเฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” ก็โทรศัพท์มาแจ้งว่าตนเองถูกรางวัลที่ 1 ตามหมายเลขดังกล่าว และแจ้งว่าจะให้ตนเองไปรับลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ไปขึ้นรางวัลเอง หรือจะให้เฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” ขึ้นรางวัลให้แล้วโอนมาให้ตนเอง ซึ่งขณะนี้ตนเองยังตัดสินใจไม่ว่าจะไปรับขึ้นเองหรือให้ทางเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” ดำเนินการให้ และที่ผ่านมาตนเองก็ได้ซื้อลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล จากเฟบุ๊คเพจชื่อดัง “มังกรฟ้า” มาเกือบตลอดเพียงงวดละ 2 ใบเท่านั้น

มาปลดหนี้ที่พ่อค้างธนาคารจำนวนกว่า 4 แสนบาท ค่ารถยนต์กระบะอีกกว่า 6 แสนบาทและจะสร้างบ้านหลังใหม่ และฝันก็เป็นจริงที่เกิดขึ้นในวันนี้หลังจากรับเงินรางวัลแล้วตนเองจะนำดังกล่าวมาปลดหนี่ทันที่ พร้อมสร้างบ้านหลังใหม่ ที่ตอนนี้บ้านดังกล่าวอยู่รวมด้วยกันจำนวน 10 ชีวิต ตนเอง สามี ลูก 2 คน พร้อมพ่อ แม่ พี่สาว และหลาน ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างมานานมีสภาพเก่า นอกจากนั้นก็จะเงินดังกล่าวมาต่อยอดอาชีพ

ตร.กก.6 บก.ปทส.บุกจับพ่อค้าลักลอบค้าสัตว์ป่าผ่านเฟสบุ๊ค วันเดียวรวบได้ 2 ราย

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 11 มี.ค.65 พ.ต.ต.ธนสิน จินดาย้อย สว.กก.6 บก.ปทส. พร้อมด้วยสายตรวจ ชป.2 จ.พัทลุง สนธิกำลังร่วมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 และ เจ้าหน้าที่สำนักการข่าว กอ.รมน. ร่วมกันจับกุม นายสุกรี เจ๊ะนิ อายุ 35 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้ขณะเตรียมนำของส่งให้ลูกค้าในพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งเฉลิมพระเกียรติจังหวัดพัทลุง ต.เขาเจียก จ.พัทลุง พร้อมของกลางเป็น.นกปรอดหัวโขน จำนวน 5 ตัว พร้อมตรวจยึดรถยนต์กะบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวป้ายทะเบียน 1 ฒฐ-1467 กทม. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และกล่องกระดาษลังสีน้ำตาลที่ใช้สำหรับบบรจุใส่นก อีกจำนวน 3 กล่อง ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 มาตรา 92


อีกรายเป็นการขยายผลจับกุมผ่านเฟสบุ๊ค หลังมีการนัดซื้อขายสัตว์ป่าฯ กันผ่านเฟสบุ๊ค จนสามารถจับกุม นายปฐมพงษ์ เจริญฤทธิ์ อายุ 41 ปี พร้อมของกลางเป็นนกขุนแผน และตรวจยึดรถยนต์กระบะ ที่ใช้เป็นยานพาหนะขณะมาส่งของให้ลูกค้า เหตุเกิดบริเวณสี่แยกเอเชีย ต.ท่ามิหรำ จ.พัทลุง ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพื่อดำเนินคดีในข้อหา ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 29 มาตรา 89.

ผบ.ตร.เร่งสอบ1ในแก๊งค์ไอ้ฉุย หลังหนีกบดานที่บ้านเกิด

พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้บินด่วนลงพื้นที่ จ.พัทลุง เพื่อสอบปากคำ นายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือ เจ อายุ 22ปี หนึ่งในแก๊งคนร้ายที่ยิงปะทะเดือดกับตำรวจกองปราบกลางแยกไฟแดงท่านางพรหม ในพื้นที่ อ.เขาชัยสน หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จนกระทั่งตำรวจตามคุมตัวไว้ได้

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ฯ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า หลังได้สอบเค้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่เปิดฉากยิงปะทะตำรวจกลางไฟแดงจริง หลังเกิดเหตุก็ได้แยกกันหลบหนี ก่อนนัดเจอกันอีกครั้ง โดยนายพงศกรฯ ได้หลบหนีไปกับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิไทรทัน ที่ไปจอดติดหล่มและยางล้อหน้าแตกอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ซึ่งตำรวจก็ได้ตรวจยึดรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบแล้วเรียบร้อย

สำหรับในทางคดี ทางนานพงศกรฯ ก็ให้การเป็นประโยชน์ซึ่งเชื่อว่าสามารถมัดตัวคนร้ายร่วมแก๊งค์ทั้งหมดได้อย่างแน่นอน สำหรับนายพงศกรฯ ผู้ต้องหารายนี้พบมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดอีกด้วย.

ตร.สั่งล่าไอ้ฉุย เขาคาว คนร้ายยิง ตร.บาดเจ็บและเสียชีวิต คาดยังคงกบดานในพื้นที่รอยต่อพัทลุง-สงขลา ล่าสุดเตรียมออกหมายจับแล้ว

พัทลุง-ตร.สอบสวนกลางลงพื้นที่ไล่ล่าไอ้ฉุย คนร้ายยิง ตร.บาดเจ็บและเสียชีวิต คาดยังคงกบดานในพื้นที่รอยต่อพัทลุง-สงขลา พร้อมสั่งกำชับ ตร.ทุกโรงพักตรวจเข้มสถานพยาบาลคาดกลุ่มคนร้ายเข้าไปรักษาตัว

คืบหน้าการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านท่านางพรหม พื้นที่ ม.6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ตำรวจเสียชีวิต 1 รายคือ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6.บก.ป และตำรวจบาดเจ็บอีก2 ราย ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้ 3 ราย คาด2 ใน3 รายถูกยิงได้รับบาดเจ็บด้วย

ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจสามารถตามยึดรถของคนร้ายได้แล้วจำนวน 3 คัน เป็นรถยนต์กระบะ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 2 คัน หลังถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์มน้ำมัน บริเวณ บ้านเขาจัน รอยต่อระหว่างอำเภอป่าบอน จ.พัทลุง กับ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ส่วนรถอีก 1 คันที่คนร้ายใช้ขับหลบหนี ขณะนี้ตำรวจเร่งตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเชื่อมโยงทุกสาย

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.สอบสวนกลาง พล.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.พัทลุง พ.ต.อ.สุริยา ปัญญานัง รอง ผบก.พัทลุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ป่าบอน จ.พัทลุงและ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อนำกำลังจากกองปราบไปสมทบกับตำรวจในพื้นที่ เข้าปิดล้อมจับกุม ไอ้ฉุย หรือนายจำรัส รักจันทร์ อายุ 44 ปีที่คาดว่าน่าจะหลบหนีมาอยู่ในป่าบริเวณบ้านเขาจัน และตรวจค้นบ้านที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายเข้ากบดาน หลังตำรวจพบรถยนต์เก๋งสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ในป่าสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรถมีร่องรอยรูกระสุนหลายนัด รวมไปถึงคราบเลือดที่ตกอยู่ภายในรถ นอกจากนี้ยังพบสำลีและกระดาษทิชชูเปื้อนเลือดถูกทิ้งไว้กลางป่า ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายได้ทิ้งรถแล้วหลบหนีเข้าไปในป่าหลังหมู่บ้าน อีกทั้งยังทราบว่าจุดดังกล่าวเป็นที่กบดานและซ่อนตัวของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มาโดยตลอด

หลังจากนั้นก็เข้าไปย้อนรอยดูจุดเกิดเหตุ เริ่มตั้งแต่จุดแรกที่วัดบ่วงช้าง ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน เป็นจุดที่คนร้ายนำรถไปจอดไว้ในวัด และชวนกันเดินไปเล่นไฮโลในป่าสวนยางข้างวัด และเป็นจุดที่ตำรวจได้ขับรถเข้าไป ก่อนที่กลุ่มคนร้ายเห็นผิดสังเกต ก่อนโชว์อาวุธปืนให้เห็น โดยไม่คิดว่าจะเป็นตำรวจ จากนั้นตำรวจก็จอดรอดูท่าทีอยู่สักพัก กลุ่มคนร้ายก็เดินออกมาขึ้นรถขับออกจากวัดไป ตำรวจก็ขับรถตามประกบ คาดกลุ่มคนร้ายไหวตัวทันชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่รถตำรวจ ก่อนเปิดฉากไล่ล่า และมีการยิงปะทะกันขึ้น ตลอดระยะทางประมาณ 5 กม.
ต่อมาในจุดที่ 2 เป็นสวนยางพาราหลังวัดท่าควาย ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน เป็นจุดที่คนร้ายทิ้งรถกระบะมิตซูบิชิไตรทัน คาดว่าน่าจะติดหล่ม ยางล้อหน้าซ้ายแตก ไม่สามารถขับหนีต่อไปได้ จากการตรวจสอบภายในรถพบคราบเลือดที่คันเกียร์ และพวงมาลัย

จุดที่ 3 เป็นจุดเกิดเหตุบริเวณแยกไฟแดงท่านางพรหม จุดที่กลุ่มคนร้ายยิงปะทะกับตำรวจ จนทำให้ตำรวจ เสียชีวิตไป 1 บาดเจ็บอีก 2 ราย คนร้ายตายไป1 หลังเกิดเหตุตำรวจตรวจยึดรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้ได้ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก และเงินสดจำนวน 1 แสนบาท

ทางด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เผยว่า การไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้ ตำรวจได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุดใหญ่ มีชุดสืบสวนจับกุมและชุดทำคดี ขณะนี้สามารถเก็บหลักฐานได้มากพอสมควร โดยเฉพาะรถยนต์ที่กลุ่มคนร้ายขับหลบหนีมีทั้งหมด 4 คัน สามารถตรวจยึดมาได้แล้ว 3 คัน เป็นรถยนต์เก๋ง 2 คันและกระบะอีก 1 คัน ส่วนอีกคัน เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในทุกเส้นทาง เชื่อว่าตำรวจจะสามารถไล่ล่ากลุ่มคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายได้แน่นอน เพราะเชื่อในประสบการณ์ และการทำงานของตำรวจทุกนาย

แหล่งข่าวใกล้ชิด ไอฉุย เขาคาว หรือ นายจำรัส รักจันทร์ เล่าว่า โดยปกติ ไอ้ฉุย เขาคาว จะไม่ค่อยออกมาในหมู่บ้านนานแรมปี หากไอ้ฉุย เขาคาวปรากฏตัวแสดงว่าต้องมีการว่าจ้าง สั่งฆ่าใครสักคน และจากหลักฐานที่พบในรถยนต์เก๋งคันก่อเหตุ คาดบุคคลนั้นต้องเป็นคนมีชื่อเสียง ส่วนค่าจ้างอาจมีการรับมาแล้วบ้างบางส่วน

ส่วนทางด้านตำรวจในพื้นที่ ก็มีคำสั่งให้ตรวจเข้มตามสถานพยาบาล รพ.สต.ทุกแห่ง คาดกลุ่มคนร้ายจะเข้ารับการรักษษตัวเนื่องจากเชื่อว่าในกลุ่มของคนร้ายที่หลบหนีต้องมีคนบาดเจ็บด้วยอย่างน้อย 2 ราย ล่าสุด ผบช.ภาค9 เผยเตรียมออกหมายจับกลุ่มคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ากี่ราย

ชุดหนุมานเตรียมลงพื้นที่ไล่ล่า หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงปะทะ ตร.ทำให้ ตร.ถูกยิงสวนตาย 1 เจ็บ1 ฝั่งคนร้ายตาย1 หลบหนีอีก3

เมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.45น.เกิดเหตุตำรวจกองปราบ นำโดย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6.บก.ป และ ด.ต.ชัชชัย ศัญโย ผบ.หมู่ กก.6.บก.ป และตำรวจชุด รวม 8 คน ออกติดตามไล่ล่าจับกุมนายจำรัส รักจันทร์ ผู้ต้องหาคดีฆ่า และหมายจับทั้งในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา รวม 9 คดี

ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจชุดจับกุมพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทันสีน้ำตาล ป้ายทะเบียน สฉ-2283 กทม.และ รถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนเทา ป้ายทะเบียน กท-2946 พัทลุง ของคนร้ายจอดอยู่ในวัดบ่วงช้าง ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถตามประกบ แต่เมื่อมาถึงถึงริมถนนสาย 42บริเวณแยกไฟแดงท่านางพรหม ม.6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ผู้ก่อเหตุไหวตัวทัน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้ตำรวจ กระสุนพลาดถูก ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6.บก.ป เสียชีวิต และ ด.ต.ชัชชัย ศัญโย ผบ.หมู่ กก.6.บก.ป ถูกยิงที่แขนบาดเจ็บ

ส่วนคนร้ายเสียชีวิต 1ศพ ทราบชื่อคือ นายวัชระ รัตนสุวรรณ์ และหลบหนีอีก3 ใน3ราย คาดว่าน่าจะถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปด้วยอย่างน้อย2ราย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างไล่ล่าติดตามตัว

ล่าสุด ทราบว่า ทางด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พร้อมชุดหนุมานกำลังบินด่วนลงพื้นที่เพื่อร่วมไล่ล่าติดตามตัวผู้ต้องรายสำคัญรายนี้ด้วย.