ตร.สายตรวจบางแก้วสุดเจ๋งรวบโจรลักสายไฟได้พร้อมหลักฐานคามือ หลังตระเวนก่อเหตุในพื้นที่4 อำเภอสร้างความเสียหายนับแสน

พ.ต.อ.ชาญชัย งามธุระ ผกก.สภ.บางแก้ว พ.ต.ท.มนตรี อนันต์ รองผกก.ป.สภ.บางแก้ว พ.ต.ท.ถาวร ทิพวารี สวป.สภ.บางแก้ว และ ร.ต.อ.พรชัย ไตรโสม รอง สว.สส.ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจรถยนต์ ออกลาดตระเวณดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ และสามารถจับกุมโจรลักสายไฟได้ 1ราย คือ จรัล หรือ เติม ช่วยพิชัย อายุ 48 ปี อดีตช่างไฟฟ้าห้างดังในพื้นที่ และรับเหมาเดินสายไฟฟ้า พบประวัติก่อเหตุตระเวณลักสายไฟฟ้าหลายอำเภอ ในพื้นที่ อ.บางแก้ว อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน และ อ.ปากพะยูน สร้างความเสียหายร่วมกว่า 8 แสนบาท

นายยุพยงค์ รักนุ่น ผอ.หมวดบำรุงทางหลวงชนบทปากพะยูน ผู้เสียหาย เล่าว่า ตั้งแต่ช่วง พ.ย.64 ถึง มค.65 มีโจรเข้าไปลักลอบตัดสายไฟ ช่วงบริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย พท.4033 ถึง บ้านเพ็งอาจ ระยะทางประมาณ 5 กม.สร้างความเสียหายในช่วงนี้ ประมาณ 3 แสนบาท โดยมีภาพจากกล้องหน้ารถของชาวบ้าน จับภาพพฤติกรรมของโจรรายนี้ไว้ได้ เป็นภาพขณะ นายจรัล หรือ เติมฯ ผู้ต้องหา ได้ตีเนียน จอดรถเปิดไฟกระพริบเพื่อตบตาคนที่ขับรถผ่านไปมา ให้ดูเหมือนรถเสีย หรือคล้ายกับการเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาซ่อมสายไฟ

ทางด้าน พ.ต.อ.ชาญชัยฯผกก.สภ.บางแก้ว เล่วว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้จะเลือกก่อเหตุจุดที่ห่างไกลจากบ้านคน ก่อนลงมือจะเข้ามาตัดกระแสไฟฟ้าก่อนช่วงกลางวัน กลางคืนจะได้ง่ายในการก่อเหตุ โดยดัดแปลงด้านท้ายของรถยนต์กระบะใช้โซ่ล่ามติดไว้กับแหนบรถ เพื่อใช้ลากสายไฟที่ต้องการขโมย ก่อนนำสายไฟที่ได้ไปแกะ เพื่อเอาลวดทองแดงไปขาย

ซึ่งจากการตรวจสอบในรถยนต์กระบะอีซูซุแคปสีบรอนทอง ป้ายทะเบียน บน_643 พัทลุง คันที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ พบกล่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการขโมยอีกหลายรายการ ทั้งไขควง มีด ปะแจ ไฟสปอตไลท์ จอบ เสียม ถุงมือ รวม 14 รายการ อีกทั้งกล่องเสื้อผ้าของผู้ต้องหา ตำรวจจึงตรวจยึดเป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

ทางด้าน พ.ต.อ.ชาญชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังขยายผลเพิ่มเติม ออกตรวจสอบตามร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เพราะไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน และหลังจากนี้หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมสามารถเข้าแจ้งความได้ที่ สภ.บางแก้ว.

สองคลัสเตอร์ใหญ่ตลาดสดและงานแต่งงานทำยอดโควิดพุ่ง

จังหวัดพัทลุงพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงจาก 2 คลัสเตอร์ใหญ่ตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง และคลัสเตอร์งานแต่งงานพื้นที่อำเภอเมืองพัทลุง ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดพุ่งสูงล่าสุดวันนี้ 77 ราย ขณะที่เทศบาลเมืองพัทลุงสั่งปิดแผงแม่ค้าพ่อค้าติดเชื้อ 20 ราย พร้อมเร่งทำความสะอาด

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน มากที่สุดอำเภอเมืองพัทลุง ถึงจำนวน 34 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อในเขตเทศบาลพัทลุงถึง 15 ราย ส่วนใหญ่มาจากคลัสเตอร์ตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง และก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยติดเชื้อจากคลัสเตอร์ตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นแม่ค้าพ่อค้าจำนวน 20 ราย ทางสาธารณสุข เทศบาลเมืองพัทลุง สั่งปิดแผงของผู้ป่วยติดเชื้อทันที พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เร่งทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างทำความ และประกาศให้ผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสิ่งของตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา หากทราบว่าเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงเข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที

ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เทศบาลเมืองพัทลุง ยังคงเปิดตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงให้พ่อค้าแม่ค้า ค้าขายต่อไป เนื่องจากหากปิดตลาดสดจะมีผลกับแผงค้าอื่นๆและกับประชาชนผู้ที่จับจ่ายซื้อสินค้าไปจำหน่ายต่อยังพื้นที่หมู่บ้าน แต่จะเข้มงวดกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ที่เดินทางมาตลาดสดมากยิ่งขึ้น ส่วนแผงค้าขายที่พบว่าติดเชื้อโควิดนั้นได้สั่งปิดเป็นเวลา 14 วัน

ขณะเดียวกันยังพบคลัสเตอร์ใหญ่อีกคลัสเตอร์คือคลัสเตอร์งานแต่งงานหมู่ที่ 1 ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง วันที่ 12 – 13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบความเชื่องโยงผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 จำนวนมาก ทางศูนย์ปฏิบัติตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน COID – 19 อำเภอเมืองพัทลุง หากพบว่าเป็นบุคคลผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที พร้อมแยกกักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และจาการรายงานของสาธารณสุขจังหวัดพัทลุงพบว่าพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงพบผู้ป่วยติดเชื้อทุกอำเภอ แต่ละวันพบผู้ป่วยติดเชื้อกว่า 70 ราย และยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2565 มีผู้ป่วยติดเชื้อแล้วทั้งหมด 1,280 ราย

ตร.สยบไพรีตามไล่ล่า ไอ้แกล็ก ผู้ต้องหาตามหมายจับ ยิงปะทะ ตร.มาแล้ว 3 ครั้ง สุดท้ายหนีลอยนวล

พ.ต.อ. ศักดา เจริญกุล รองผู้บัญชาการสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค9 พร้อมด้วยตำรวจชุดสยบไพรีสำนักงานตำรวจภูธรภาค9 และตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดพัทลุง ชุดปราบปรามยาสเสพติดตำรวจภูธรพัทลุง เกือบ 100 นาย

เปิดปฏิบัติการตามไล่ล่า ไอ้แกล็ก หรือ ประดิษฐ มุสิกะสงค์ อายุ 41ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุงถึง 5 หมาย หนีกบดานเข้าพักในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง หลังตำรวจ เฝ้าติดตามจนสืบทราบว่าและเปิดปฏิบัติการเข้าปิดล้อมตั้งแต่เช้าตรู่ที่ผ่านมา

ไอ้แกล็ก หรือ ประดิษฐ มุสิกะสงค์ เป็นบุคคลอันตรายเคยก่อเหตุปล้น ฆ่า และพยายามฆ่า มาแล้วในหลายพื้นที่ ทั้งในพื้น อ.ปากพะยูน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง และ อ.สะเดา จ.สงขลา หลบหนี การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ถึง 3ครั้ง และทุกครั้งมีการยิงปะทะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทุกครั้งเพื่อเปิดทางหลบหนี


ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 65 ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมสืบภาค9 เข้าปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งใน ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน หลังสืบทราบว่านาย ไอ้แกล็ก หรือ ประดิษฐ มุสิกะสงค์ ผู้ต้องหา ซ่อนตัวอยู่ จนกระทั่งไหวตัวทันยิงปะทะตำรวจหลบหนีไปได้ จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ภายหลังพบอาวุธปืน ยาเสพติดอีกเพียบ

ซึ่งในวันนี้ ตำรวจได้ติดตามจนเจอตัวอีกครั้ง โดยทราบว่า ผู้ต้องหา ได้แอบมาเช่ารีสร์อท แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมพวก รวม 5 คน ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุม โดยวางกำลังตำรวจไว้ล้อมรอบพื้นที่ดังกล่าว แต่สุดท้ายต้องเปิดทางให้รถของกล่มผู้ต้องหาขับออกจากรีสอร์ทก่อน เพราะเกรงว่าคนในรีสอร์ทจะถูกลูกหลงไปด้วย ก่อนตำรวจจะขับไล่ติดตาม จนถูกกลุ่มผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงสวน ใส่ตำรวจที่ไล่ติดตามหลายนัด ส่งผลให้รถของตำรวจเสียหาย บริเวณกระจกด้านหน้ามีร่องรอยรูกระสุนเต็มไปหมด แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนั้น ตำรวจได้เข้าตรวจค้นรีสอร์ท ที่กลุ่มผู้ต้องหาแอบมาซ่อนตัว พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนสงคราม กว่า 50 นัด นอกจากนี้ยังมียาเสพติดชนิด ยาบ้า ไอซ์ อีกจำนวน หนึ่ง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บดีเอ็นเออย่างละเอียดอีกครั้ง

เบื้องต้นทางตำรวจคาดว่า กลุ่มผู้ต้องหาน่าจะมีคนเจ็บ ระหว่างที่มีการยิงปะทะกัน จึงได้ประสานไปยัง โรงพยาบาลทุกแห่ง หากมีใครถูกยิง และเข้ารับการรักษาในพื้นที่ให้รีบแจ้งทันที จากเบาะแสทราบว่าทางกลุ่มผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทางฝั่ง อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ตำรวจได้สั่งตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั่วพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว.

กลุ่มแม่ค้าตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง ( ตลาดตึก ) รวมกลุ่มยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ หลังได้รับความเดือดร้อนเทศบาลเมืองพัทลุง ขอคืนพื้นที่ปรับปรุงเป็นถนน

ช่วงสายที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง กลุ่มแม่ค้าตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง ( ตลาดตึก ) ยื่นหนังสือร้องทุกข์ หลังได้รับความเดือดร้อนจาการขอคืนพื้นที่ค้าขายบริเวณถนนภายในซอยตลาดตึก เทศบาลเมืองพัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง กับนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อขอความเป็นธรรมให้ระงับการขอคืนพื้นที่จากเทศบาลเมืองพัทลุง

เนื่องจากทางเทศบาลเมืองพัทลุงจะดำเนินการรื้อถอนโครงสร้างหลังคาและปรับพื้นที่ค้าขายสินค้า ที่กลุ่มแม่ค้าได้ทำการค้าขายบริเวณดังกล่าวเกือบ 50 ปี ให้เป็นถนนที่รถยนต์สามารถผ่านได้ หากทางเทศบาลเมืองพัทลุงดำเนินการจะสร้าง กลุ่มแม่ค้า ที่ค้าขายบริเวณดังกล่าวไม่มีที่ค้าขาย และเหมือนเป็นการซ้ำเติมกันในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19

จึงขอวอนผ่าน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาข้อมูล และข้อเท็จจริง เพื่อขจัดความเดือดร้อนของประชาชน ดังนี้

  1. โครงสร้างหลังคา ขอให้คงไว้เหมือนเดิม เพื่อใช้ประโยชน์ในการสัญจรและค้าขาย หากรื้อถอนประชาชนจะเดือดร้อนและค้าขายลำบาก
  2. ให้แผงค้าขายสามารถขายของในที่เดิมได้ โดยเว้นทางเดินให้ผู้คนสัญจร ไปมาได้สะดวก
  3. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการ จัดระเบียบ ความเรียบร้อย และระบบสาธารณสุข รวมถึงจัดเก็บรายได้ ให้เหมาะสม

ขณะที่นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รับปากที่จะประสานไปยังนายกเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมให้กับกลุ่มแม่ค้าบริเวณตลาดตึกได้ค้าขายต่อไปในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19

ด้าน ศศินธิรา เหมรักษ์ ตัวแทนกลุ่มแม่ค้าตลาดใต้ตึกเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า การขอคืนพื้นที่บริเวณถนนซอยภายในตลาดใต้ตึก จากเทศบาลเมืองพัทลุงเพื่อปรับปรุงถนนใหม่นั้น สร้างความเดือดร้อนให้กลุ่มแม่ค้าเป็นอย่างมาก กลุ่มแม่ค้าพ่อค้ากว่า 35 รายได้ค้าขายในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเกือบ 50 ปี จึงเรียกร้องให้ไว้คงเดิม เพื่อให้กลุ่มแม่ค้าได้ค้าขายตามปกติ ขณะเดียวกันทางกลุ่มแม่ค้ายินดีเว้นทางเดินให้ผู้คนสัญจร ไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น และพร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการ จัดระเบียบ ความเรียบร้อย และระบบสาธารณสุข รวมถึงจัดเก็บรายได้ ให้เหมาะสมต่อไป.

นิติศักดิ์ ธรรมเพชร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น นายกชมรมกีฬามวยจังหวัดพัทลุง

“ นาย นิติศักดิ์ ธรรมเพชร “ได้เดินทางไปประชุมการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชมรมกีฬามวยจังหวัดพัทลุงที่ห้องประชุม การกีฬาแห่งประเทศไทย(จังหวัดพัทลุง)

โดยมี นาย จ่าเอกชยพงศ์ เทียบพุฒ อดีตประธานชมรมมวยจังหวัดพัทลุง นาย นิติศักดิ์ ธรรมเพชร และ เจ้าของค่ายหลายค่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมด้วย ชมรมกีฬามวยจังหวัดพัทลุงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ บริหารชมรมกีฬาขึ้นใหม่ มาแทน กรรมการที่หมดวาระเพื่อปฏิบัติหน้าที่บริหารชมรมฯ


ตามระเบียบของข้อบังคับ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพัทลุง พ.ศ๒๕๕๘ และ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘โดยบุคคล ดังกล่าวจะต้องปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการบริหารชมรมกีฬามวยจังหวัดพัทลุง ต่อไป
ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ๒๕๖๑จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ดังต่อไปนี้

ทั้งนี้ ในที่ประชุมทุกฝ่ายมีมติเสนอให้“ นาย นิติศักดิ์ ธรรมเพชร “เป็น นายกชมรมกีฬามวยจังหวัดพัทลุงในครั้งนี้

และได้มีการวางแผนการชูนักมวยเด็กเยาวชนจังหวัดพัทลุงให้มีการส่งเสริมเด็กรักมวยและส่งให้เป็นนักกีฬาดีเด่นระดับชาติ
ส่งเสริมกีฬามวยไทยของจังหวัดพัทลุงให้ดีกว่าเดิม

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดเพียรยินดีประมาณ 40คน เข้ายื่นหนังสือผ่านเขตพื้นที่การศึกษาขอความเป็นธรรม เรื่องการปิดตลาดชั่วคราว

ช่วงเวลา 10.00น. ของวันนี้ นางฉวีวงค์ แทนขำ แกนนำ พร้อมด้วยพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดเพียรยินดี ประมาณ 40 คน ได้้ดินทางมาพบ หัวหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 กรณีตัวแทนสำนักงาน ฯ ปิดป้าย และทำหนังสือให้พ่อค้าแม่ค้าตลาดเพียรยินดี ให้หยุดขายของในพื้นที่ตลาดเพียรยินดีชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา แต่ทางพ่อค้า แม่ค้า มีการชี้แจงเหตุผล และข้อเสนอไปแล้ว ซึ่งทาง สนง.เขต ฯ ก็อ้างเหตุผลว่าด้วยสภาพอาคารของตลาดเพียรยินดี มีความทรุดโทรม เปิดใช้นานกว่า40ปีแล้ว เกรงว่าอาคารจะพัง เสี่ยงเกิดอันตรายต่อพ่อค้าแม่ค้า และลูกค้าที่ใช้บริการ

แต่ทางด้าน พ่อค้า แม่ค้า ก็อ้างหากมีการปิดตลาดจะส่งผลให้ไม่มีที่ขายของ เกิดความเดือดร้อนต่อไปในอนาคต

ส่วนสาเหตุที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 เข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า สืบเนื่องจากเมื่อก่อน ตลาดเพียรยินดีเป็นสถานที่ของเอกชน คือนายเพียร นางยินดี ณ พัทลุง ตอนนี้ทั้งสองเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเสียชีวิตได้มอบพื้นที่ดังกล่าวให้กับทางสนง.เขตพื้นที่ ฯ จ.พัทลุง เพื่อใช้เป็นสถานที่สาธารณประโยชน์ และให้ สนง.เขตพื้นที่ฯ จ.พัทลุงเข้ามาดูแลบริหารจัดการเพื่อนำรายได้ไปพัฒนาการศึกษาของเด็กในพื้นที่ แต่ทาง สนง.เขตพื้นที่ฯได้จัดสรรพื้นที่ดังกล่าวเป็นตลาดเพียรยินดีอย่างที่ทุกคนรู้จักกัน

หลังจากการประชุม ทางกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ก็รับทราบและเข้าใจ ยินยอมให้ทางเจ้าของพื้นที่เข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมตัวอาคารทั้งหมด โดยมีระยะเวลาในการปรับปรุง จำนวน 30 วัน หลังจากนี้.

ผู้ว่าฯยืนยันพบผู้ป่วยโควิด_19สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว2ราย นำเข้าจากต่างจังหวัด พร้อมสั่งปิดบ่อนไก่ชน

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงโดยผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน 2 รายเป็นเพศหญิง รายแรกเดินทางจาก กทม เยี่ยมญาติ รายที่ 2 กลับจากท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่และจังหวัดภูเภ็ต

เมื่อช่วงสายวันนี้ 11 มกราคม 2565 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวดพัทลุงประชุมด่วนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบ Zoom หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด –19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน เป็นเพศหญิง 2 ราย รายแรกเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครโดยสายการบิน กลับมาเยี่ยมญาติพื้นที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และเข้ารักษาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลควนขนุน

ผลยืนยันเมื่อวันที่ 9 มกราคม 25665 เป็นสายพันธุ์โอมิครอน แต่มีอาการไม่รุนแรงแยกตัวรักษาที่บ้านพัก และไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อจากการตรวจครั้งแรก

และจะมีการตรวจหาเชื้ออีกครั้งสำหรับกลุ่มดังกล่าว รายที่ 2 อยู่ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง พบติดเชื้อโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ป่วยและเข้าได้รับตรวจหาเชื้อผลยืนยัน เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 เช่นกัน

หลังจากได้เดินทางกลับจาการท่องเที่ยวจากจังหวัดกระบี่และจังหวัดภูเภ็ต ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ ขณะที่กลุ่มผู้เสี่ยงสูงภายในครอบครัวกักตัวเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

จากสถานการณ์ดังกล่าว คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง ได้พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อเข้มงวดไม่ให้มีการติดเชื้อแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง และมาตรการเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน เนื่องจากก่อนหน้านี้พื้นที่ของจังหวัดพัทลุงหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ พบผู้ป่วยติดเชื้อกว่า 70 ราย เกือบทุกวัน

ผลมาจากคลัสเตอร์บ่อนไก่ชน อำเภอศรีนครินทร์ ซึ่งได้รับการผ่อนคลายจากมาตรการการควบคุมโรคติดต่อให้เปิดบ่อนไก่ชนได้ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีนักการพนันเดินทางมาจากต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ติดเชื้อจากบ่อนไก่ชน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงมีมติประชุมสั่งปิดบ่อนไก่ชนและสนามซ้อมไก่ชน ตั้งแต่วันนี้ 11 มกราคม 2565เป็นต้นไป

จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาคลี่คลายอีกครั้ง ส่วนใบอนุญาตที่ออกไปก่อนหน้าวันประกาศสั่งปิดนั้น ยังคงสามารถเปิดได้

ขณะเดียวกันที่ประชุมมติอนุญาตให้สามารถเปิดการแสดงมโนราห์ของศิลปินพื้นบ้านได้เฉพาะการรำพิธีกรรมเล็กๆ เช่นการรำแก้บน การรำตั้งหิ้ง และแสดงมโนราห์โรงครู ซึ่งมีผู้ร่วมงานจำนวนน้อย.

กลุ่มศิลปินมโนราห์เดือดร้อนหนักเปิดแสดงไม่ได้ รวมตัวหน้าศาลากลางเรียกร้องขอความเป็นธรรม

เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา กลุ่มศิลปินมโนราห์จังหวัดพัทลุง รวมตัวกันบุกศาลากลาง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง เนื่องจากเดือดร้อนหนักไม่มีงานในห้วง2ปีที่ผ่านมา โดยมีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ลงมารับหนังสือด้วยตนเอง

การเดินทางมาของกลุ่มมโนราห์ในครั้งนี้ นำโดยมโนราห์อ้อมจิต นางอ้อม สงแทน และ มโนราห์ โทน ดาวรุ่งท่าแค นายนริศร เพชรมณี

เนื่องจากตามที่มีคำสั่งของ ศบค. ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 รวมทั้งการจัดระบบระเบียบราชการได้กำหนดให้สถานที่หรือการดำเนินการกิจกรรมไม่สามารถเปิดการแสดงได้ ศิลปินมโนราห์ คณะมโนราห์และทางเจ้าภาพได้ไปขออนุญาตจัดงานกิจกรรม ไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางหน่วยงานราชการทุกภาคส่วน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับศิลปินมโนราห์ โดยส่งผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มศิลปินและกลุ่มแสงสีเสียง เวที นักดนตรี และผู้ประกอบการ ทำให้เกิดความเดือดร้อนถึงครอบครัวและเกิดภาระหนี้สิน จนเกินกว่าจะอดทนรอ

ดังนั้น ทางกลุ่มศิลปินมโนราห์จังหวัดพัทลุง จึงขอความอนุเคราะห์และความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของกลุ่มศิลปินเหล่านี้ โดยเบี้องต้น 1 ขอให้สามารถประกอบพิธีกรรมของมโนราห์ เช่น ตั้งหิ้ง และมโนราห์แก้บน 2 ขอให้สามารถแสดงมโนราห์โรงครูได้ 3 ขอให้สามารถแสดงมโนราห์โรงโบราณได้ และ 4 ขอให้สามารถเปิดการแสดงมโนราห์ โดยทั่วไปได้ โดยเร็วที่สุด

ทางด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ กล่าวว่า หลังรับหนังสือดังกล่าวจะเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง ภายในวันอังคารที่จะถึงนี้ เพื่อขอเห็นและมติประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง ว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการตามที่กลุ่มศิลปินมโนราห์จังหวัดพัทลุง เรียกร้องได้หรือไม่ โดยเฉพาะการแสดงที่มีคนร่วมกิจกรรมจำนวนน้อย เช่น พิธีกรรมของมโนราห์ เช่น ตั้งหิ้ง และมโนราห์แก้บน และแสดงมโนราห์โรงครู ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการนั้นต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด – 19 ในช่วงนี้ด้วยถึงแม้ว่าโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ยังไม่มีในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง

อีกทั้งในขณะนี้ พื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ยังมีการแพร่ระบาดของโรคกระจายในหลายอำเภอ จากคลัสเตอร์บ่อนไก่ชน พื้นที่อำเภอศรีนครินทร์ ที่มีพนักจากต่างจังหวัด เดินทางเข้าเล่นการพนันไก่ชนเป็นจำนวนมาก และเชื้อได้แพร่กระจายไปทั่วเกือบทั้งจังหวัดพัทลุง ดังนั้นเรื่องดังกล่าวก็จะนำเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง เช่นกัน ถึงมาตรการการควบคุมโรค ซึ่งอาจจะเป็นไปได้หากยังพบผู้ป่วยติดเชื้อจากคลัสเตอร์บ่อนไก่ชน ก็พร้อมที่จะสั่งปิด ทันที่ ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ 70 ราย

ทางด้าน นายนริศร เพชรมณี หรือ มโนราห์ โทน ดาวรุ่งท่าแค กล่าวว่าที่ผ่านมาเกือบ 2 ปีเต็ม กลุ่มศิลปินมโนราห์ ในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถเปิดการแสดงได้เลย แม้แต่การแสดงกลุ่มเล็กๆเช่นพิธีกรรมของมโนราห์ เช่น ตั้งหิ้งบูชา และมโนราห์แก้บน และแสดงมโนราห์โรงครู ทำให้ขาดรายได้และมีหนี้สินเพิ่ม อีกทั้งยังได้รับการเยี่ยวยาจากรัฐบาล จากสถานการณ์โรคโควิด – 19 เลย จึงได้มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมในการเปิดแสดง เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และลูกน้องในคณะ.

รมว.การท่องเที่ยวร่วมวางศิลาฤกษ์มณฑปพ่อขุนศรีศรัทธาบรมครูมโนราห์วัดท่าแค

“มโนราห์” ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จากยูเนสโก เป็นที่ยินดีของประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงและประชาชนชาวปักษ์ใต้ จึงได้วางศิลาฤกษ์มณฑปพ่อขุนศรีศรัทธาบรมครูมโนราห์ ณ.วัดท่าแค ต้นกำเนินถิ่นมโนราห์ศิลปะการแสดงพื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วทั้งประเทศไทยและชาวต่างประเทศ

และในวันนี้ 6 มกราคม 2565 ที่วัดท่าแค ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางนางนาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และนายกูเกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมคณะได้วางศิลาฤกษ์มณฑปพ่อขุนศรีศรัทธาบรมครูมโนราห์ ต้นกำเนินถิ่นมโนราห์ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ การสร้างมณฑปพ่อขุนศรีศรัทธา เป็นแหล่งยึดเหนียวจิตใจของผู้ศรัทธา

และคงไว้แห่งเอกของศิลปะที่เรียกว่า “โนรา” และประดิษฐานรูปเหมือนพ่อขุนศรีศรัทธา พร้อมรองรับผู้มีจิตศรัทธาและนักท่องเที่ยวที่มาสักการะพ่อขุนศรีศรัทธา จะเป็นการพัฒนาส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และร่วมมือกันช่วยกันอนุรักษ์สืบสานสิ่งที่มีคุณค่าด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้เป็นภาพลักษณ์อันโดดเด่นของประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงและชาวปักษ์ใต้


และตามความเชื่อในเรื่องโนราว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครองดูแล รักษาลูกหลานที่นับถือตายายให้มีความเจริญรุ่งเรือง และพ่อขุนศรีศรัทธาวัดท่าแคคือบรรพบุรุษทางมโนราที่ลูกหลาน นับถือให้ความเคารพ กราบไหว้ บูชามาทั้งแต่ปู่ยา ตา ยาย มณฑปที่จะสร้างขึ้นถือเป็นสิ่งที่ลูกหลานผู้มีจิตศรัทธาให้ความเคารพนับถือ และให้คงอยู่เป็นที่สักการะของประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงและชาวปักษ์ใต้
การวางศิลาฤกษ์มณฑปพ่อขุนศรีศรัทธาบรมครูมโนราห์ เพื่อก่อสร้างนั้น “มโนราห์เกรียงเดช” หรือ นายเกรียงเดช ขำณรงค์ พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมและสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น (โนราโรงครูท่าแค)

เป็นผู้ริเริ่ม โดยมีอาจารย์เขียนศักดิ์ แสงเกลี้ยง สถาปนิกผู้ออกแบบมณฑป และเป็นเรื่องที่ยินดีของประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงและประชาชนชาวปักษ์ใต้ “มโนราห์” ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จากยูเนสโก จึงได้วางศิลาฤกษ์มณฑปพ่อขุนศรีศรัทธาบรมครูมโนราห์ ณ.วัดท่าแค ต้นกำเนินถิ่นมโนราห์ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วทั้งประเทศไทยและชาวต่างประเทศ

สองน้าหลานขับรถยนต์กระบะเสียหลักลงข้างทาง ชนอัดก็อบปี้ต้นไม้ เสียชีวิต รายที่ 3และ 4 ใน ช่วง 7 วัน อันตราย

ช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจ สภ.เขาชัยสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เร่งนำเครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือคนติดภายในซากรถ หลังได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักลงข้างทาง แล้วชนอัดก็อบปี้อยู่กับต้นไม้ เหตุเกิดช่วงโค้งสัมพันธ์ ขาล่องใต้ ก่อนถึงหลัก42 ในพื้นที่ ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ โตโยต้าวีโก้ 4 ประตู ป้ายทะเบียน กค_3884 พัทลุง ชนอัดก็อบปี้ติดอยู่กับต้นไม้ริมทาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง งัดซากรถนานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถนำร่างคนขับและคนนั่งข้างคนขับออกมาได้ ในสภาพเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ พบว่ายังเป็นน้ากับหลานกันอีกด้วย ทราบชื่อผู้ตายทั้งสอง คือ นายจีรวัตร คงเคว็ด อายุ 32 ปี คนขับ และ นายถาวร อรุณโณ อายุ 57 ปี นั่งข้างคนขับ

หลังจากนั้นทางตำรวจ และแพทย์เวรโรงพยาบาลเขาชัยสน ได้ลองพื้นที่เกิดเหตุเพื่อชันสูตรเบื้องต้น ก่อนส่งร่างผู้ตายทั้งสองคนชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลเขาชัยสนต่อไป.

ภาพ/ข่าว #กระแสข่าวพัทลุง