พิธีกรรมโนราโรงครูเชิดชูขุนอุปถัมภ์นรากร


จังหวัดพัทลุง โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุงร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลชะมวงกำหนดจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา และวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2567 กิจกรรมพิธีกรรมโนราโรงครูเชิดชูอุปถัมภ์นรากร (พุ่มเทวา)

🎯 ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567

🎯 สถานที่ : ณ วัดพิกุลทอง ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

🎯 รายละเอียดกิจกรรม พิธีกรรมโนราโรงครูเชิดชูอุปถัมภ์นรากร (พุ่มเทวา)

  • วันที่ 29 พฤษภาคม 2567
    พิธีเปิด การเข้าโรง การเบิกโรง การลงโรง การกาศครู การเชิญครู การกราบครู โนราใหญ่รำถวายครู การจับบทตั้งเมือง การรำมโนราห์ภาคบันเทิง
  • วันที่ 30 พฤษภาคม 2567
    การลงโรง การกาศครู การเชิญครู การถวายของ พิธีเซ่นครูหมอตายาย การถวายครู การรำมโนราห์ภาคบันเทิง
  • วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 (วันพิธีใหญ่)
    การลงโรง การกาศครู การเชิญครู การถวายของ พิธีเซ่นครูหมอตายาย การถวายครู การแต่งพอง รำ 12 บท การรำมโนราห์ภาคบันเทิง
  • วันที่ 1 มิถุนายน 2567
    การลงโรง การกาศครู การเชิญครู การถวายของ การออกพราน การเหยียบเสน การรำคล้องหงส์ การรำแทงเข้ พิธีส่งครู

โครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10

เชิญชวนคนไทยทั้งประเทศ ร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องในปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ผ่านการออกกำลังกายเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ

วัตถุประสงค์โครงการ
1. เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ทรงเป็นดั่งแสงนำใจของประชาชนไทย และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย ทรงมีพระเมตตาแผ่ไพศาลแก่พสกนิกรชาวไทยอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ และเชื้อชาติ
2. เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านการให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมองแบบเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ
3. เพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนทุกเพศ ทุกวัย และทุกหมู่เหล่า ได้ออกกำลังกาย ผ่านกิจกรรมออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน  ซึ่งหากออกกำลังกายติดต่อกันเป็นประจำ จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรค และช่วยลดค่าใช้จ่ายการรักษา ตลอดจนลดภาระของปัญหาโรคเรื้อรังได้

📣แจกเสื้อฟรี #ด่วนเลยจ้า แจก 400,000 คน 400,000 ตัวเท่านั้น

📣 ลงทะเบียนและดูรายละเอียดข้อมูลสนามจังหวัดพัทลุงได้ที่ https://wrb10.thai.run/event/PLG

📣 ข้อมูลการรับเสื้อและงานวิ่งจังหวัดพัทลุง
1. วันและสถานที่รับเสื้อโครงการฯ: วันที่ 51 กันยายน – 31 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 – 16.00 ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง
2. จุดจัดและเวลากิจกรรม: หน้าพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เวลา 06.00 น.
3. ติดต่อสอบถาม: https://www.facebook.com/moph.ptho

📣 ลงทะเบียนและดูรายละเอียดข้อมูลสนามแต่ละจังหวัดได้ที่ https://wrb10.thai.run/

📣 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : https://www.facebook.com/walkrunbikefighting


ที่นี่พัทลุง

ขอเชิญร่วมการแข่งขัน จักรยาน BALANCE BIKE

📍 การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดพัทลุง ร่วมกับ ชมรม PHATTHALUNG BIKE KIDS ขอเชิญร่วมการแข่งขัน จักรยาน BALANCE BIKE ชม และให้กำลังใจเด็กๆกัน

📌17-18 สิงหาคม 2567 นี้ แล้วเจอกันค๊าารับรองมันส์อย่างแน่นอนพบกับ MC พี่แมทธิว ขวัญใจเด็กๆ

📌 สถานที่ https://maps.google.com/maps/place//data=!4m2!3m1!1s0x304d7cd16c00baff:0x179742d214b9ba11?entry=s&sa=X&ved=1t:8290&hl=th&ictx=111

พบยาบ้าเกือบ3 แสนเม็ด ซุกพงหญ้าข้างทาง

พัทลุง-ตำรวจพบยาบ้าเกือบ 3 แสนเม็ด คาดนักค้ายาเสพติดกลัวเจ้าหน้าที่ตรวจค้น จึงนำยามาทิ้ง หรือรอเครือข่ายมารับช่วงต่อ

9 ม.ค.66 ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วย ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณริมถนนบ้านท่าขนุน หมู่ 13 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง หลังมีพลเมืองดีแจ้งว่า มีปุ๋ยต้องสงสัย จำนวน 2 ถุง ถูกนำมาทิ้งไว้ริมทาง หลังเข้าตรวจสอบพบเป็นยาบ้า มีการระบุเลข 999 จำนวน 20 กว่าห่อ ห่อละ 1 หมื่นเม็ด รวมแล้วเกือบ 3 แสนเม็ด

สอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ไม่มีใครทราบเบาะแสใดๆ เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มเอเย่นต์ค้ายาในพื้นที่ เกรงกลัวตำรวจซึ่งมีการตั้งด่านตรวจเข้มทุกเส้นทาง จึงเอามาซุกไว้ริมทาง หรือไม่ก็อาจนำมาซุกไว้ เพื่อรอเครือข่ายมารับช่วงต่อก็เป็นไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางใกล้จุดดังกล่าว เพื่อหาเบาะแสและเจ้าของยาเสพติดมาสอบสวนต่อไป.

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์

วันนี้ 3 สิงหาคม 2565 ที่โรงเรียนทศบาลบ้านทุ่งลานสถิตธรมาทร อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัด นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม ลงนามถวายพระพรชัยมงคล นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การให้บริการคลินิกเกษตรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ การจัดแสดงและจำหน่ายผลผลิตผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ของจังหวัดพัทลุงและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีเกษตรกรมาร่วมงานและเข้ารับบริการคลินิกเกษตร ประมาณ 200คน

ซึ่งกระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอพระราชานุญาตจัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ กราบบังคมทูลถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมารเนื่องในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมพรรษา 50 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2545 และทรงรับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ ทรงพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ โดยเริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 26กรกฎาคม 2545ณ ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี และได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหา

ให้ได้รับบริการทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง ทันเหตุการณ์ และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในอาชีพ โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุก เช่น การวิเคราะห์ดินการวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและให้ความรู้ด้านการเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วยการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการในจังหวัดพัทลุงและจังหวัดใกล้

โรงเรียนดังออกชี้แจง กรณีที่ไล่เด็กออกจากห้องสอบเกือบร้อยคน อ้างเพราะผมยาว

จากกรณีที่เพจพัทลุงปลดแอก นำข้อความมาโพสต์ลงเพจใจความว่า โรงเรียนชื่อดังย่านท่ามิหรำไล่เด็กนักเรียนออกจากห้องสอบนับร้อย เพียงเพราะมีระเบียบที่ล้าหลัง ซึ่งทางผู้โพสต์อ้างว่า เป็นการลิดรอนสิทธิของกลุ่มเด็กนักเรียนดังกล่าว

หลังจากเกิดเหตุทางทีมข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงก็พบว่าเด็กๆ มีการสอบกลางภาคกันอยู่จริง โดยการสอบเก็บคะแนนกลางภาคมีการสอบกันตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 22 ก.ค.65 ส่วนประเด็นที่ถูกตั้งคำถามผ่านทางหน้าเพจฯ ทางโรงเรียนก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง มีเด็กที่ถูกลงโทษไปจำนวน 76 ราย มีทั้งระดับมัธยมต้นม.3 และมัธยมปลาย ม.4 ม.5 ม.6 ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนผู้ชาย แต่ในวันนี้กลุ่มเด็กนักเรียนในระดับชั้นข้างต้นไม่ได้มาสอบ เนื่องจากทางโรงเรียนแบ่งวันมาสอบตามสายชั้น เลยไม่พบกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีปัญหาดังกล่าว

ทางด้าน นางสาวภิรัญญา อินถิติ ผู้อำนวยการโรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัยพัทลุง เล่าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้ทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และในวันนี้ก็ได้เรียกประชุมครู และบุคลากรฝ่ายกิจการนักเรียนเข้าประชุมด่วนเพื่อหารือถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่รอกันอยู่หน้าห้องประชุม

โดยทาง นางสาวภิรัญญาฯ ผอ.กล่าวว่า เมื่อวานวันที่ 18 ก.ค.65 ที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนในระดับชั้น ม.3 ม.4 ม.5 และ ม.6 เข้าสอบเก็บคะแนนกลางภาคทั้งหมด 1,035 คน พบเด็กนักเรียนที่มีผมยาวผิดระเบียบทางโรงเรียน จำนวน 76 คน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนชายชั้น ม.ปลาย ซึ่งหลังจากที่ไล่เด็กไม่ให้เข้าสอบ ทางคุณครูที่คุมสอบก็ได้แจ้งให้เด็กๆเหล่านั้นไปตัดผมใหม่ให้เรียบร้อย ก่อนมาติดต่อครูประจำรายวิชาเพื่อสอบซ่อม และมีเด็กนักเรียนบางรายออกไปตัดผมใหม่และมาเข้าสอบแล้วเรียบร้อย

ส่วนที่มีประเด็นขึ้นมาทางโรงเรียนก็ขอน้อมรับ และเข้าใจนักเรียนแต่ในขณะเดียวกันเด็กนักเรียนทุกคนก็ต้องน้อมรับกฎระเบียบของทางโรงเรียน ที่ปฏิบัติกันมาก่อนหน้านี้ด้วย พร้อมยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งเด็กนักเรียน เพียงแค่ขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดียวกัน และทำความเข้าใจตรงกันให้ได้ อีกอย่างก่อนหน้าที่ลงโทษเด็กทางโรงเรียนก็มีการแจ้งล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.65 ที่ผ่านมา

ในส่วนของเด็กนักเรียนชายกลุ่มหนึ่ง เล่าว่า ปกติทางโรงเรียนจะมีการตรวจทรงผม เครื่องแต่งกายของเด็กนักเรียนทุกต้นเดือน หรือวันจันทร์แรกของทุกๆเดือน แต่ช่วงสอบเก็บคะแนนกลางภาคเป็นช่วงกลางเดือน ก็อาจจะมีบ้างตามประสาเด็กผู้ชายที่ผมอาจจะยาวไปบ้าง

ทางโรงเรียน หรือครูฝ่ายกิจการน่าจะมีการอนโลมให้ได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ในเมื่อเลือกที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ พวกเขาก็น้อมรับกฎระเบียบของโรงเรียนอยู่แล้ว แต่ก็ยังแอบมีความหวังว่ากฎระเบียบทุกอย่างมันย่อมมีการปรับเปลี่ยนกันได้ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับโรงเรียนอื่นๆ เช่นพี่ๆ ม.ปลายผู้ชายสามารถไว้รองทรงสั้นได้ ผู้หญิงก็สามารถไว้ผมยาวได้.

ชาวบ้านโร่แจ้งความ หลังถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุนสูญเงินหลายสิบล้าน โดยการขายฝันให้กับชาวบ้านจนหลงเชื่อ

วันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุง ชาวบ้านประมาณ 10 คน เดินทางมาจากจังหวัดพัทลุง และ จังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดยนาย อาคม ชูช่วย หนึ่งในผู้เสียหายทั้งหมด หอบเอกสารเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทฯแบ็คอัพ(ไทยแลนด์) จำกัด หลังถูกบริษัทดังกล่าวหลอกให้ลงทุน อ้างผลตอบแทนสูง มีทั้งเงินเดือน และรถประจำตำแหน่ง และทองคำสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกรายใหม่อีกด้วย

นายอาคมฯ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้รู้จักบริษัทดังกล่าว จากการชักชวนของนาย สมเสริม ชูรักษ์ อดีตข้าราชการบำนาญ และมีการอ้างว่าเป็นผู้อำนวยการระดับภาคใต้ ของบริษัทแบ็คอัพฯ หลอกให้ลงทุนเป็นสมาชิกครั้งแรกเป็น จำนวนเงิน 1 หมื่น6พันบาทโอนเงินไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย.65 ต่อมาวันที่ 15 เม.ย.65 มีการหลอกเพิ่มเติมว่า หากต้องการมีรถตำแหน่งต้องโอนเงินเพิ่ม เป็นค่าจองรถมีการโอนเงินเพิ่มไปอีก 6หมื่นบาท ทางนายสมเสริมฯ ผู้ชักชวน อ้างว่าจะมีการส่งมอบรถให้ประมาณสิ้นเดือนเม.ย.65 พอครบกำหนดนายอาคมฯ ผู้เสียหายได้ทวงถาม แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนทางผู้เสียหายคิดว่าโดนหลอกแล้วแน่นอนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

จากข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่า บริษัทดังกล่าวมี นางสาวนาฏศิลป์ เรืองแสน เป็นประธานบริษัท ดร.อธิภัทร วิชัยผิน และ นายก่อเกียรติ พานิชยารมณ์ เป็นรองประธานบริษัท บริษัทแบ็คอัพฯ ตั้งอยู่ที่ แขวงถนนไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนผลิตปุ๋ยตราร่มโพธิ์ ข้าวสารตรานาฏศิลป์ และธุรกิจเซเว่นเบรนส์ โดยมีการอ้างผลตอบแทนหากมีคนเข้ามาสมัครสมาชิกเริ่มต้นคนละ 1หมื่น6พันบาท จะได้รับปุ๋ยคนละ 1 ตัน ทองคำหนัก 1 ถึง 2 บาท หลอกขายฝันจนชาวบ้านหลงเชื่อเสียหายทั่วทั้งประเทศ โดยที่สมาชิกทั้งหมดยังไม่ทีใครได้รับผลตอบแทนใดๆจากทางบริษัทฯเลยแม้แต่คนเดียว แต่ยังมีผู้เสียหาย อีกหลายร้อยคนยังรอผลตอบแทนอย่างมีความหวัง และยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี

ทางด้าน พ.ต.ท.เด่นพงศ์ เต็มยอด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า คดีดังกล่าวเข้าข่ายคดีฉ้อโกง และจะมีความผิดอื่นๆอีกหรืไม่ ก็ต้องตรวจหลักฐานที่ทางผู้เสียหายนำมายื่นอีกครั้ง

ล่าสุดทราบว่า มีผู้เสียหายบางส่วนรวมตัวกัน นำเรื่องเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ กทม.แล้วด้วย โดยมีนายวสุรัตน์ ตัณฑ์ศรีสุวรรณ ผู้ช่วย สส.พรรคก้าวไกล ประสานให้ความช่วยเหลือ.

อนุชา ลงพื้นที่แก้ปัญหาการตัดโค่นต้นยางพารา

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน และคณะ ลงพื้นที่ จ.พัทลุง ใน เพื่อประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน กรณี ปัญหาการตัดโค่นต้นยางพาราในพื้นที่จังหวัดตรัง จังหวัดพัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า จังหวัดพัทลุง ณ วัดนาวง ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวมทั้งตัวแทนสมัชชาคนจนเข้าร่วมการประชุม และประชาชนที่รับได้ความเดือนร้อนกว่า 200 คน เข้าร่วมรับฟังการประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายอนุชาฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นความห่วงใยประชาชน ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และรับฟังปัญหาในพื้นที่

จากกรณีปัญหาการตัดโค่นต้นยางพาราเพื่อปลูกใหม่ ในพื้นที่ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่ประชาชนอาศัยทำกิน ก่อนการประกาศพื้นที่เป็นเขตอุทยาน เนื่องจากต้นยางพาราที่มีอายุกว่า 30 – 35 ปี ทำให้ต้นยางพาราเสื่อมสภาพ ไม่สามารถเก็บน้ำยางได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน พร้อมระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น กำลังเข้าสู่กระบวนการในการแก้ไข ซึ่งปัจจุบัน ยังคงติดในเรื่องของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ยังทำไม่แล้วเสร็จ ทำให้ประชาชนยังไม่สามารถตัดโค่นต้นยางที่เสื่อมสภาพได้ รวมทั้ง คณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า ไม่สามารถใช้ มติคณะรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น


นายอนุชาฯ ยืนยันว่าจะเร่งรัดการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด และ ประสานการทำงาน กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพราะหากไม่มีกฎหมายรองรับ เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถ ให้ประชาชนตัดโค่นต้นยางในพื้นที่อุทยานได้

ขณะที่ในที่ประชุม ได้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหา โดย ตัวแทนสมัชชาคนจน เสนอให้ คณะรัฐมนตรี ออกเป็นพระราชกำหนด ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น การเสนอให้ใช้ มาตรา 22 ใน พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ที่อนุญาตให้สามารถดำเนินการต่างๆในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อการศึกษา วิจัย หรือ การทดลองทางวิชาการได้ รวมทั้ง การเสนอให้ตีความข้อกฎหมายเรื่องการใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินในเขตพื้นที่อุทยาน ว่าสามารถตัดโค่นต้นยางพาราในพื้นที่ได้หรือไม่ โดย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับข้อเสนอทั้งหมดในที่ประชุม

เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป พร้อม ระบุว่า การแก้ปัญหามีความคืบหน้า และ มั่นใจว่า จะสามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชนจนสำเร็จ และ ยืนยันว่า ข้าราชการทุกคน พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนเช่นเดียวกัน พร้อมขอให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ร่วมมือกัน ในการแก้ปัญหาให้ผ่านลุล่วงไปได้


ขณะที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายก ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพพื้นที่แปลงปลูกยางพารา ของนางเอื้อน คงวุ่น ในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นต้นยางพาราที่มีอายุกว่า 35 ปี และเสื่อมสภาพ ให้น้ำยางได้น้อย และไม่สามารถตัดโค่นเพื่อปลูกใหม่ได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน โดย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจ และ ยืนยันว่า กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้โดยเร็ว และ จะพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่

ทางด้านตัวแทนสมัชชาคนจนขึ้นเวทีประกาศหากภายใน 1 เดือนปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขจะรวมตัวประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาลทันที่หลังจากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขมาเป็นเวลานาน.

ปลุกกระแส กระตุ้นรายได้สู่ชุมชนผู้ประกอบการยิ้มได้ พช.พัทลุง เปิดโปรแกรมแหล่งท่องเที่ยวภายใต้โครงการฯ (D-Hope) เริ่มจุดแรกที่ทะเลน้อย

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา นายเสรี จิตรเวช พัฒนาการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยนางรัตนา มิตรเมือง พัฒนาการอำเภอควนขนุน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ร่วมจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวลงมือปฏิบัติจริง หรือ D-HOPE ที่บริเวณศาลากลางน้ำ ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย พื้นที่ ม.2 ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

โดยมีนายภูดิศ ชนะวรรณโณ
นายอำเภอควนขนุน ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานโครงการฯ พร้อมโชว์ฝีมือพ่อครัว และการเพ้นท์ลายกระจูดโชว์อีกด้วย กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 -26 พฤษภาคม 2565 เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ กลุ่มองค์กร และครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการในชุมชนให้สามารถจัดกิจกรรมที่ผู้บริโภคลงมือทำด้วยตนเองผู้ประกอบการ/ผู้เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจัดโปรแกรมที่ผู้บริโภคได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง และภายในงานฯ

ได้มีการนำเสนอจำนวน 10โปรแกรม ได้แก่ 1.การเรียนรู้ ทำปลาส้ม ของดีทะเลน้อย 2.โปรแกรมเสื่อกระจูด หัตถกรรมฝีมือชุมชน 3.โปรแกรมไข่ปลาสมุนไพร ทางเลือกใหม่อาหารสุขภาพ 4.การออกทะเลหาของหรอย เป็นรากบัว เพื่อนำมาปรุงแกงส้มรากบัว 5.โปรแกรมส่นด้วยมือ ทำด้วยใจ กระเป๋ากระจูดทะเลน้อย 6.โปรแกรมพืชท้องถิ่นสู่หัตถกรรมชุมชน กระเป๋ากระจูด 7.โปรแกรมเรียนรู้พืชท้องถิ่น แปลงกระจูดทะเลน้อย 8.โปรแกรมกระจูดทำมือ 9.โปรแกรมเล่าเรื่อง ขนมพื้นบ้าน และ 10.โปรแกรมเรื่องราวของปลาดุกร้า

ทุกโปรแกรมการท่องเที่ยวทางพัฒนาการจังหวัดพัทลุง ได้จัดทำเพื่อเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ สนับสนุนอาชีพให้คนในพื้นที่ชุมชนทะเลน้อยต่อไป.

ชาวพัทลุงร่วมยินดีกับลูกหลานได้เหรียญทองเพาะกายชายกีฬาซีเกมส์ครั้งที่31

บรรยากาศการแห่เหรียญทองของนักกีฬาเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม กีฬาซีเกมส์ครั้งที่31กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม รอบตลาดเทศบาลเมืองพัทลุง ชาวพัทลุงออกมาแสดงความยินดีตลอดเส้นทาง ที่สร้างชื่อเสียงให้กับชาวจังหวัดพัทลุงและประเทศชาติ

เมื่อช่วงสายวันนี้(19 พ.ค.65)ที่บริเวณลานหน้าพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง สมาคมเพาะกายจังหวัดพัทลุง พร้อมพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง ออกมาแสดงความยินดี นายเอกพล สุขทอง อายุ 41 ปี หรือบ่าวไข่เจียว นักกีฬาเพาะกาย ที่เข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ครั้งที่31 กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เป็นการแข่งขันวันที่ 2 ชิง 4 ทอง จากประเภทเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กิโลกรัม รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กิโลกรัม รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กิโลกรัม

โดยไทยลงแข่งครบทั้ง 4 รุ่น หนึ่งในจำนวนนั้นคือ นายเอกพล สุขทอง อายุ 41 ปี หรือบ่าวไข่เจียว นักกีฬาเพาะกาย ลูกหลานของชาวจังหวัดพัทลุง ลงแข่งขันรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม และผลปรากฏว่า ไทยเก็บเหรียญทองเพิ่มจาก เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม เอกพล สุขทอง ( แชมป์โล เมื่อปี 2019) ได้เหรียญทอง เป็นเหรียญที่ 2 ของเพาะกาย เงิน มิน ซอ อู (พม่า) ทองแดง ไซนัล อารีฟ บิน ไซนัล อาริฟิน (มาเลเซีย) สำหรับเอกพล สุขทอง ที่ได้เหรียญทอง นั้นเคยได้แชมป์โลมาก่อน เมื่อปี 2019

ซึ่งหลังจากพี่ประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง ได้แสดงความยินดีนายเอกพล สุขทอง อายุ 41 ปี หรือบ่าวไข่เจียว นักกีฬาเพาะกาย ได้เข้ากราบไหว้พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองและเป็นพระรูปประจำภาคใต้ คือพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นนายเอกพล สุขทอง อายุ 41 ปี หรือบ่าวไข่เจียว นักกีฬาเพาะกาย

ได้ขึ้นรยนต์เก๋งเปิดประทุนแห่รอบตลาดเขตเทศบาลเมืองพัทลุง โดย 2 ข้างทาง มีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากออกมาแสดงความยินดี ที่นายเอกพล สุขทอง อายุ 41 ปี หรือบ่าวไข่เจียว นักกีฬาเพาะกาย สร้างชื่อเสียงให้กับชาวจังหวัดพัทลุง และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ พร้อมขอถ่ายรูปกับเจ้าของเหรียญทองตลอดเส้นทาง

ขณะนายเอกพล สุขทอง อายุ 41 ปี หรือบ่าวไข่เจียว เจ้าของเหรียญทองนักกีฬาเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม กีฬาซีเกมส์ครั้งที่31 จากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า ตนเองเฝ้ารอคอยเหรียญกีฬาซีเกมส์ เป็นมาเวลานานซึ่งตอนนี้สามารถทำความฝันเป็นจริงให้กับพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุงพร้อมสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และเป็นเหรียญกีฬาซีเกมส์เหรียญแรกของพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุง ในการแข่งขันครั้งนี้ และเนื่องจากกีฬาเพาะกายไม่ได้บรรจุในกีฬาเกมส์มาถึง 9 ปีแล้ว และเป็น 9 ปีที่รอคอย ในส่วนของการฝึกซ้อมนั้นได้ฝึกซ้อมตลอดเพื่อต้องการเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ให้ได้เพื่อต้องการให้คนทั่วไปหันมาสนใจกีฬาการเพาะกายให้มากยิ่งขึ้นมีการพัฒนากีฬาเพาะกาย และในส่วนของตนเองต้องการให้เป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆรุ่นหลัง หันมาเล่นกีฬาเพื่อความเลิศ.