ชายวัย33ปีถูกยิงเสียชีวิต สลด พ่อนั่งร่ำไห้ไม่ห่างศพลูกชาย สาเหตุคาดปมขัดแย้งมาจากเรื่องส่วนตัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาขยาด พร้อมด้วยตำรวจชุดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวรโรงพยาบาลควนขนุน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคลองนบชด พื้นที่ ม.3 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ในที่เกิดเหตุพบร่างของ นายตั้ม หรือ คุณากร ทองหนูเอียด อายุ 33 ปี ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง_ดำ ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ในสภาพที่ยังเปิดไฟหน้ารถอยู่ บริเวณรถพบคราบเลือดหลายจุด ส่วนที่ร่างของผู้ตายพบบาดแผลบริเวณขา และหน้าอก รวม 3 แผล นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุตำรวจยังพบเศษลูกปลายกระสุนปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 ชิ้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นายพักตร์ อายุ 62 ปี พ่อของคนตาย เล่าว่า ช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.โดยผู้ตายบอกพ่อว่าจะออกไปทำธุระ และซื้อของที่ร้านขายของชำใกล้บ้าน หลังจากนั้นไม่นานมีเพื่อนบ้านมาบอกว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต ตนจึงรีบมาดูก่อนร่ำไห้ นั่งเฝ้าศพลูกชายไม่ห่าง

นอกจากนี้ นายพักตร์ฯ พ่อผู้ตายบอกอีกว่า มีทรัพย์สินที่ติดตัวผู้ตายหายไปหลายรายการ ทั้งสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง
ส่วนสาเหตุการตาย เบื้องต้นทางตำรวจคาดว่าผู้ก่อเหตุกับผู้ตายคงนัดมาเคลียร์อะไรบางอย่างแล้วเจรจาตกลงกันไม่ได้ อีกทั้งจุดดังกล่าวไม่ค่อยมีใครใช้สัญจรไปมา ยกเว้นคนหาปลาหรือชาวสวนที่เข้ามาตัดยางในพื้นที่เท่านั้น หลังจากนี้ทางตำรวจก็จะเร่งติดตามสืบสวน เรียกสอบปากคำญาติของผู้ตาย ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง.

พัทลุงเตรียมจัดงานย้อนรอยต้นกำเนิดมโนราห์อย่างยิ่งใหญ่ หลังมโนราห์ได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมความเชื่อที่จับต้องไม่ได้

จังหวัดพัทลุงเตรียมจัดงาน สุดยิ่งใหญ่แห่งปี กับงาน ย้อนรอยต้นกำเนิดมโนราห์ เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด เชิดชู ศิลปะวัฒนธรรม“ มโนราห์”ที่เป็นภูมิแห่งปัญญาของบรรพชนที่ได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่วัดพระบรมธาตุเจดีย์ เขียนบางแก้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่กำลังจะถึงนี้

อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางยูเนสโก ได้รับขึ้นทะเบียนและประกาศให้ มโนราห์ เป็นมรดกโลกด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือ ความเชื่อที่จับต้องไม่ได้ ทำให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ต้นกำเนิดมโนราห์ได้พอมีขวัญกำลังใจ ในการสืบสาน อนุรักษ์ ศิลปะแขนงนี้ต่อไป

โดยในการแถลงข่าวในวันนี้ มีศิลปินชื่อดัง อย่าง เอกชัย ศรีวิชัย ดารานักร้อง และมโนราห์อาวุโสอย่าง มโนราห์ อ้อมจิตรก็ได้เข้าร่วมในการแถลงข่าวด้วย

ทางด้านนายเอกชัย ศรีวิชัย ศิลปินใต้ชื่อดังกล่าวว่า วันนี้รุ้สึกยินดีและดีใจที่คนรุ่นหลังได้มีเจตนารมณ์ในการอนรักษ์ หวงแหนประเพณีเกี่ยวกับมโนราห์เอาไว้ และต้องขอบคุณ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่เป็นคนคิดริเริ่ม และผลักดันมโนราห์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและกลายเป็นมรดกโลก ทำให้คนรุ่นหลังได้เข้ามามีบทบาท รู้จักมโนราห์มากขึ้น

กิจกรรมในการจัดงานในช่วงกลางปีหน้า ก็จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่สุดอลังการ มีเหล่าดาราศิลปิน เซเลป เน็ตไอดอล คนดังเข้าร่วมกิจกรรม และนอกจากนี้ก็จะมีการประกวดหนุ่มเทพบุตรศรีศรัทธาเทพธิดาทองสําลี ที่ออกแบบให้แต่งกายย้อนยุค ประดับตกแต่งรูปแบบขบวนรถบุพชาติ ช้าง ม้า นางรํา อย่างยิ่งใหญ่ ชมการแสดงแสง สี เสียง การแสดงละครพื้นบ้านตอนกําเนิดมโนราห์ ณ เวียงกลางบางแก้ว มโนราห์โรงครู พิธีกรรมขอขมากรรม ต่อบรรพชนเทวดาฟ้าดิน พิธีเปิดบ้านเปิดเมือง โดยพราหมณ์ราชครูมโนราห์.

พัทลุง-แถลงข่าวเตรียมจัดงานย้อนรอยต้นกำเนิดมโนราห์อย่างยิ่งใหญ่ หลังมโนราห์ได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมความเชื่อที่จับต้องไม่ได้

จังหวัดพัทลุงเตรียมจัดงาน สุดยิ่งใหญ่แห่งปี กับงาน ย้อนรอยต้นกำเนิดมโนราห์ เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด เชิดชู ศิลปะวัฒนธรรม“ มโนราห์”ที่เป็นภูมิแห่งปัญญาของบรรพชนที่ได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่วัดพระบรมธาตุเจดีย์ เขียนบางแก้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่กำลังจะถึงนี้

อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางยูเนสโก ได้รับขึ้นทะเบียนและประกาศให้ มโนราห์ เป็นมรดกโลกด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือ ความเชื่อที่จับต้องไม่ได้ ทำให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ต้นกำเนิดมโนราห์ได้พอมีขวัญกำลังใจ ในการสืบสาน อนุรักษ์ ศิลปะแขนงนี้ต่อไป

โดยในการแถลงข่าวในวันนี้ มีศิลปินชื่อดัง อย่าง เอกชัย ศรีวิชัย ดารานักร้อง และมโนราห์อาวุโสอย่าง มโนราห์ อ้อมจิตรก็ได้เข้าร่วมในการแถลงข่าวด้วย

ทางด้านนายเอกชัย ศรีวิชัย ศิลปินใต้ชื่อดังกล่าวว่า วันนี้รุ้สึกยินดีและดีใจที่คนรุ่นหลังได้มีเจตนารมณ์ในการอนรักษ์ หวงแหนประเพณีเกี่ยวกับมโนราห์เอาไว้ และต้องขอบคุณ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่เป็นคนคิดริเริ่ม และผลักดันมโนราห์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและกลายเป็นมรดกโลก ทำให้คนรุ่นหลังได้เข้ามามีบทบาท รู้จักมโนราห์มากขึ้น

กิจกรรมในการจัดงานในช่วงกลางปีหน้า ก็จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่สุดอลังการ มีเหล่าดาราศิลปิน เซเลป เน็ตไอดอล คนดังเข้าร่วมกิจกรรม และนอกจากนี้ก็จะมีการประกวดหนุ่มเทพบุตรศรีศรัทธาเทพธิดาทองสําลี ที่ออกแบบให้แต่งกายย้อนยุค ประดับตกแต่งรูปแบบขบวนรถบุพชาติ ช้าง ม้า นางรํา อย่างยิ่งใหญ่ ชมการแสดงแสง สี เสียง การแสดงละครพื้นบ้านตอนกําเนิดมโนราห์ ณ เวียงกลางบางแก้ว มโนราห์โรงครู พิธีกรรมขอขมากรรม ต่อบรรพชนเทวดาฟ้าดิน พิธีเปิดบ้านเปิดเมือง โดยพราหมณ์ราชครูมโนราห์.

รวบอดีตกำนันดัง พร้อมเพื่อนร่วมแก๊งค์พบมีหมายจับอื้อ ก่อเหตุปล้นหลายพื้นที่

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ จัดแถลงข่าวหลังเปิดยุทธการตรวจค้นกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และหมายจับคดีสำคัญในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา รวบอดีตกำนันดัง นายธีระพงค์ เพชรตีบ หรือกำนันตุ้ม อายุ 52ปี อดีตกำนันชื่อดังในพื้นที่ ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง พร้อมผู้ร่วมขบวนอีกหลายราย

นายธีระพงษ์ หรือ กำนันตุ้ม เป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวางทั้งในพื้นที่ จ.พัทลุงและ จ.ใกล้เคียง เคยก่อเหตุปล้น ฆ่า มาแล้วหลาย คดี ตั้งแต่ปี 2540 ถึง ปี 2555 มีทั้งคดีร่วมวางแผนปล้น พกพาอาวุธปืน ปลอมแปลงเอกสาร ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ซึ่งคดีทั้งหมดเหล่านี้มีการจับกุมไปบ้างแล้ว และอยู่ระหว่างพิพากษาในชั้นศาล เป็นหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญระดับต้นๆของภาคใต้


ซึ่งในวันนี้ นายธีระพงศ์ หรือกำนันตุ้ม ถูกรวบตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 426/2558 ลงวันที่ 13 ก.ค. 2558ความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์ ความผิดต่อชีวิต ซ่องโจร ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ”

พฤติกรรมในคดีที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ปี พ.ศ.2548 โดยนายธีระพงศ์ฯ หรือกำนันตุ้ม ได้ร่วมกับพวกจำนวน 10 คน วางแผนปล้นรถบรรทุกขนยางพารา โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ

ในวันเกิดเหตุ จัดคนสะกดรอยตามรถบรรทุกยางพาราว่าไปที่ใดบ้าง เมื่อรถวิ่งเข้ามาในพื้นที่ตามเส้นทางที่วางแผนไว้ จึงได้ลงมือปล้น โดยแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกให้คนขับรถบรรทุกหยุดรถ ให้คนขับพร้อมผู้โดยสาร ลงไปขึ้นรถอีกคันหนึ่ง หลังจากนั้นขับพาไปในที่เปลี่ยว และใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตคาที่ทิ้งไว้ข้างทางทั้ง 3 คน อย่างโหดเหี้ยม

อุกอาจไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง หลังจากนั้นขับรถบรรทุกยางพาราหลบหนีด่านตำรวจ โดยมีชุดล่วงหน้าคอยแจ้งถ้ามีด่านตรวจ จากนั้นกลุ่มคนร้ายนำยางพาราไปส่งที่ ปั๊ม ปตท. ของนายธีระพงศ์ฯ หรือกำนันตุ้ม ที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง

โดยนายธีระพงศ์ฯ หรือกำนันตุ้ม นำยางพาราไปขาย ได้เงินกว่าล้านบาท นำมาแบ่งในกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจับกุมจนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในคดี จำคุกตลอดชีวิต และได้รับโทษอยู่ในเรือนจำ ยกเว้น กำนันตุ้ม ผู้ต้องหารายสำคัญ ได้หลบหนีประกัน ไม่ไปฟังคำพิพากษา จนถูกออกหมายจับไว้ ด้วยเป็นผู้กว้างขว้างมีอำนาจ อิทธิพลในพื้นที่ หลบหนีลอยนวลอยู่เพียงรายเดียว

ซึ่งผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 8 เป้าหมาย ในจังหวัดพัทลุง และสงขลา สามารถรวบผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ
1. นายธีระพงศ์ หรือกำนันตุ้ม เพชรตีบ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 426/2558 ลงวันที่ 13 ก.ค. 2558
2. นายบุญประเสริฐ พรหมกุล อายุ 59 ปี ในความผิดซึ่งหน้า ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
3. นายเอกภพ พงศ์พิศาล อายุ 39 ปี ในความผิดซึ่งหน้า ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตรวจยึดของกลางได้ 4 รายการ คือ อาวุธปืน จำนวน 43 กระบอก แบ่งเป็น อาวุธปืนยาว 16 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้น 27 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 237 นัด แบ่งเป็น ขนาด 5.56 จำนวน 74 นัด , ขนาด .45 จำนวน 48 นัด , ขนาด 9 มม. จำนวน 103 นัด , ขนาด .357 จำนวน 4 นัด และขนาด .38 จำนวน 8 นัด รถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวม 42 คัน ยาเสพติดชนิดไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5 กรัม


นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีสำคัญได้อีก จำนวน 9 ราย ในข้อหา คดีร่วมกันฆ่า พยายามฆ่า และ พ.ร.บ.อาวุธปืน จำนวน 2 ราย คดีข่มขืนและรีดเอาทรัพย์ จำนวน 1 ราย คดีฉ้อโกงประชาชน และยักยอก จำนวน 5 ราย คดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จำนวน 1 ราย.

เทศบาลเมืองพัทลุง รับสมัครพนักงานจ้าง 52 อัตรา

ผู้ประสงค์จะสมัครเพื่อเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร ขอรับและยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ 21 – 29 ธันวาคม 2564 ในวันและเวลาราชการ (เวลา 08.30 น. – 16.30 น.) ณ กองการเจ้าหน้าที่ เทศบาลเมืองพัทลุง ถนนสุรินทร์ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

พัทลุง_เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนรายใหญ่ทำทุเรียนนอกฤดูกาลราคาสูงลิ่ว

เกษตรกรสวนเขาน้อย เจ้าของสวนทุเรียนรายใหญ่จังหวัดพัทลุง ประสบความสำเร็จทำให้ต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทองออกผลผลิตนอกฤดูกาล 3 ปีติดต่อกัน หล้งเข้ารับซื้อส่งจีนราคาสูงลิ่วกิโลกรัมละ 180 บาท พร้อมเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้เกษตรกร

จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความพร้อมทางด้านการเกษตร พื้นที่มีลักษณะราบลุ่ม มีแหล่งน้ำต้นทุนบริเวณเทือกเขาบรรทัดเป็นของตนเอง มีการผลิตทางด้านการเกษตรที่หลากหลาย อาทิ ทำนา ทำสวนยางพารา ทำสวนผลไม้ ประมงน้ำจืด และปศุสัตว์ ทำให้เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางด้านการเกษตร โดยมีโครงสร้างการผลิตทางด้านการเกษตรร้อยละ 32.67 แต่กลับมีรายได้ต่อหัวที่น้อย โดยมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 71,298 ต่อคนต่อปี เป็นอันดับที่ 13 ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ดังนั้นในการพัฒนาทางการเกษตร คือการที่เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทรัพยากรการเกษตรมีความสมดุลและยั่งยืน โดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน จังหวัดพัทลุงจึงได้กำหนดนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนงานเกษตรกรรมยั่งยืนเพื่อเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ของจังหวัดพัทลุง


นายชากรี รอดไฝ อดีตข้าราชการกรมป่าไม้ หลังเกษียณอายุจากรับราชการ หันมาทำอาชีพสวนผลไม้อย่างเต็มตัวในพื้นที่ สวนเขาน้อย หมูที่ 3 ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง เนื้อกว่า 50 ไร่ ใกล้เส้นทางถนนสานเพชรเกษม ช่วงพัทลุง – ตรัง เดิมทีบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนยางพารา และสวนผลไม้แบบประสมผสาน แต่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวนหลายแปลงทั้งต้นที่เริ่มเพาะปลูกอายุประมาณ 1 ปีกว่า แปลงที่ต้นทุเรียนกำลังเจริญเติบโตอายุประมาณ 3 ปีกว่า และขณะนี้แปลงที่ได้รับผลผลิตมีต้นทุเรียนจำนวน 200 ต้น


นายชากรี รอดไฝ อดีตข้าราชการเกษียณ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กรมป่าไม้ กล่าวว่าพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะพื้นที่ของอำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา และอำเภออื่นๆตามแนวเทือกเขาบรรทัด เป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับทำการเกษตรดินอุดรสมบรูณ์ไปด้วยแร่ธาตุ จึงเหมาะกับการทำสวนผลไม้ตนเองได้ปลูกต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ทั้งหมดในเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดสูงมาก ปัจจุบันทุเรียน “สวนเขาน้อย ศรีนครินทร์” แปลงที่ต้นทุเรียนให้ผลผลิตอายุประมาณ 5 ปีกว่า

และเมื่อช่วงทุเรียนอายุประมาณ 4 ปี เริ่มทำทวายต้นทุเรียน เพื่อให้ผลผลิตออกนอกฤดูกาล ที่สวนเขาน้อย ศรีนครินทร์ ทำทวายให้ต้นทุเรียนออกผลผลิตในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน แลต้นเดือนธันวาคม ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของการทำให้ต้นทุเรียนจำนวน 200 ต้น ออกผลผลิตนอกฤดูกาล ปีแรกได้ผลผลิตจำนวน 10 ตัน และคาดว่าปีนี้จะได้ผลผลิตประมาณ 30 ตัน ซึ่งขณะนี้หล้งผู้รับซื้อจากจังหวัดนครศรีธรรมราช นำคนงานเข้าตัดทุเรียนที่กำลังจะสุกประมาณ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ ราคาออกจากสวนช่วงเดือนนี้กิโลกรัมละ 180 บาท และคาดว่าในช่วงเดือนมกราคม ปีหน้าราคาอาจจะทะลุง 200 บาท ทั้งนี้หล้งที่เข้ารับเพื่อนำจำหน่ายต่อไปยังประเทศจีน


นายชากรี รอดไฝ อดีตข้าราชการเกษียณ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กรมป่าไม้ กล่าวอีกว่าที่สวนเขาน้อย ศรีนครินทร์ พร้อมเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกร ที่รักอาชีพทำสวนผลไม้โดยเฉพาะสวนทุเรียน ดังนั้นทางราชการโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าจะสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง และจังหวัดอื่นหันมาปลูกทุเรียน และทำให้ผลผลิตออกนอกฤดูกาล เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้


ขณะที่วันนี้ 15 ธันวาคม 2564 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้มอบใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร “การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร :GAP” ให้กับ นายชากรี รอดไผ เจ้าของสวนทุเรียน “ สวนเขาน้อย ศรีนครินทร์” ซึ่งกรมวิชาการทางเกษตร จะตรวจสอบ ติดตาม และสุ่มตรวจทุกระยะ อายุของใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรจะมีอายุเพียง 3 ปี เท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจมาตรฐานใหม่อีกครั้งเพื่อออกใบรับรอง.

รมต.ว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่พัทลุง สงขลา

รมต.ว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่พัทลุง สงขลา ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของ ม.ทักษิณ ในฐานะหน่วยปฏิบัติการส่วน หน้าจังหวัดพัทลุงรวมทั้งโครงการ U2T ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ


12 ธันวาคม 2564 ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงและสงขลา เพื่อติดตามการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยทักษิณในฐานะหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าจังหวัดพัทลุง และเยี่ยมชมการดำเนินงานของโครงการภายใต้การสนับสนุนงบประมาณของกระทรวง อว. โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ณ สำนักส่งเสริมการบริการวิชาการและภูมิปัญญาชุมชน อาคารทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วิชัย ชำนิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยทักษิณกล่าวต้อนรับและบรรยายสรุป “บทบาทมหาวิทยาลัยทักษิณกับสังคมและการพัฒนาเชิงพื้นที่ ในสถานการณ์โควิด-19 และการขับเคลื่อนหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าจังหวัด พัทลุง” ตลอดจน ผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากรมหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมต้อนรับ


รองศาสตราจารย์ ดร.วิชัย ชำนิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้กำหนดวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม” รวมถึงการจัดวางตำแหน่งแห่งที่เป็นมหาวิทยาลัยกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในช่วง 2-3 ปีมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มหาวิทยาลัยทักษิณได้แสดงบทบาทและแสดงออกเพื่อตอบสนองเชิงวิสัยทัศน์ พันธกิจ และนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนนโยบายรัฐบาลอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง และยังคงต่อเนื่องต่อการตอบสนองการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ปัญหาในระยะสั้น และระยะยาวผ่านการนำองค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรม และการประสานความร่วมมือกับภาคีในระดับต่างๆ


โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มอบนโยบาย พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) จากนวัตกรชุมชน 65 พื้นที่ของจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา โครงการยุวชนอาสา อว.ส่วนหน้า และนิทรรศการมหาวิทยาลัยทักษิณ พร้อมชมการแสดง “รวมศิลป์ถิ่นทักษิณา” ซึ่งเป็นการแสดงที่สื่อถึงวัฒนธรรมพื้นบ้านของภาคใต้ที่ผสมผสานศิลปะการแสดงพื้นบ้านของภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนล่าง


จากการเยี่ยมชมผลการดำเนินงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ของมหาวิทยาลัยทักษิณ นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประทับใจในผลงานนวัตกรรมชุมชนทั้ง 65 ตำบลในจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา ที่อยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษามหาวิทยาลัยทักษิณตลอดระยะเวลา1ปี ได้เห็นผลงานเชิงประจักษ์มากมาย และจะสนับสนุนผลักดันให้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ปีที่2 เพื่อช่วยเหลือนวัตกรชุมชนต่อไป.

ธรรมนัสลงพัทลุง เปิดตัวผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ สกุล”ธรรมเพชร”ส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนายก อบจ.ลงชิงชัยตำแหน่งทางการเมืองตามรอยพ่ออีกคน

วันนี้ที่ห้องประชุมโรงแรมศิวา รอยัล อ.เมืองพัทลุง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคฯ ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมการประชุมสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเลือกตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดพัทลุงทั้ง 3เขตเลือกตั้ง โดยมีนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ได้ให้การต้อนรับ

ทางด้านนายวิสุทธิ์ฯ กล่าวว่า ตนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้มาเป็นนายก อบจ.พัทลุง ตนจึงต้องเลือกพรรคการเมืองที่มี คุณภาพ มาพัฒนาจังหวัดพัทลุงให้มีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน และตนก็มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองที่ดีที่สุดที่จะเข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกับ อบจ.พัทลุง โดยตนได้ตัดสินใจส่ง นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร บุตรชายคนโตลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.พัทลุง เขต 2 ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ส่วนผู้สมัครในเขตที่ 1 และ 3 จะมีการประกาศชื่อในวันเปิดที่ทำการพรรคฯประมาณต้นปี 2565 นี้อีกครั้งหนึ่ง

ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส ฯ เผยว่า ว่าที่ผู้สมัครอีก 2 เขตนั้น ทางพรรคฯ ต้องการบุคคลที่มีคุณภาพ มีจิตรใจเป็นสาธารณะ ซึ่งตนมีความมั่นใจที่สูงว่าพรรคพลังประชารัฐภายใต้การดูแลของนายวิสุทธิ์ฯ นายก อบจ.พัทลุง จะสามารถยึดที่นั่ง ส.ส.พัทลุงทั้ง 3 เขตได้อย่างแน่นอน ทางพรรคฯจะร่วมกับ อบจ.พัทลุงจะเดินหน้าพัฒนาจังหวัดพัทลุงไปพร้อมๆกัน ซึ่งนโยบายของพรรคฯเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และประชาชนเห็นผลงานมาแล้ว ไม่เหมือนนโยบายของพรรคการเมืองบางพรรคที่เป็นนโยบายลมๆแล้งๆจนทำให้ประชาขนหมดที่พึ่งพา

ในส่วนของการการเลือกตั้งในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้นั้น ในฐานะที่ตนเป็นคนที่โตมาจากภาคใต้ และคลุกคลีกับการเมืองในพื้นที่ภาคใต้มาอย่างต่อเนื่องนั้น ตนมีความมั่นใจว่านโยบายของพรรค ผู้นำของพรรค และว่าที่ผู้สมัครของพรรคที่มีคุณภาพนั้นจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ในหลายๆเขตเลือกตั้ง และพรรคฯจะมีจำนวน ส.ส.ของภาคใต้เพิ่มขึ้นอีกหลายคนอย่างแน่นอน
สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จะมีขึ้นในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.ชุมพรนั้น เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ทางพรรคฯจะตัดสินใจว่าส่งหรือไม่ส่ง จะส่งใครนั้น จะต้องมาจากการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งตนในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรคฯ จะนำรายชื่อของผู้สมัครทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯในวันที่ 14 ธันวาคม 2564 นี้

การจัดกิจกรรมการประชุมสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ เพื่อเลือกตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดพัทลุง เขตเลือกตั้งที่ 1 ในครั้งนี้ ไม่มีนายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ และ นางสาวสุพัชรี ธรรมเพชร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีต ส.ส.พัทลุง เขต 1 พรรค ปชป. มาร่วมแสดงความดีใจกับสกุล “ธรรมเพชร”ในครั้งนี้แต่อย่างใด ข่าววงในของสกุล”ธรรมเพชร” ออกมาอย่างกว้างขวางว่า น.ส.สุพัชรีฯนั้นมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะเข้ามาสวมสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตัดสินใจทางการเมืองของ น.ส.สุพัชรีฯ และครอบครัว รวมทั้งญาติๆพี่น้องในสกุล “ ธรรมเพชร “ ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของ จ.พัทลุง และน่าจับตามองเป็นอย่างมาก หากสกุล ธรรมเพชร จะย้ายค่ายมาซบอกพลังประชารัฐ จากที่มีฐานเสียงเดิมคือพรรคประชาธิปัตย์ เสาไฟฟ้าจะถูกโค่นได้หมดหรือไม่ต้องรอติดตามต่อไป.

พัทลุง-กลุ่ม NGO ล้อมวงเสวนากัญชาทางการแพทย์ เขียนอนาคตกัญชาไทยเพื่อชาวบ้านและผู้ป่วย

ช่วงเช้าเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ทางกลุ่ม NGO ล้อมวงร่วมเสวนากัญชาทางการแพทย์ เขียนอนาคตกัญชาไทยเพื่อชาวบ้านและผู้ป่วย เพื่อผลักดันให้มีการปลดล็อกกัญชา กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่บ้านนักเขียนกวี สงสมพันธุ์ หรือบ้านใต้โหนด พื้นที่ ม.4 ต.ดอนทราย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กิจกรรมเขียนอนาคตกัญชาไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2564 แต่ละวันจะมีกิจกรรมผลัดเปลี่ยน และมีนักร้อง ศิลปินสายเขียวมาร่วมสร้างความบันเทิงในทุกค่ำคืนอีกด้วย

กิจกรรมหลักในวันนี้ คือการ ล้อมวง แลกเปลี่ยนทัศนคติ เพื่อร่วมขับเคลื่อนผลักดันให้กัญชาไทยได้มีการปลูก และขายได้อย่างเสรีเหมือนกับพืชกระท่อมที่มีการปลดล็อกไปก่อนหน้านี้ เริ่มจาก นายนิยุติ สงสมพันธุ์ ผู้จัดการและเจ้าของบ้านใต้โหนด ได้กล่าวต้อนรับผู้ร่วมบรรยาย และเริ่มเปิดประเด็นเป้าหมายเรื่องกัญชา โดยมี นายประสิทธิชัย หนูนวล ประธานเขียนอนาคตประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินรายการ หลังจากนั้น นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ แพทย์ชนบท ผอ.โรงพยาบาลจะนะ เปิดประเด็นกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่เรียกว่า เอ็นโดรคาลาปินอยด์ ในอดีตกัญชาอาจจะเป็นสารเสพติด แต่จริงแล้กัญชาเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่หมอชาวบ้านหรือหมอตำแยนำมาใช้เป็นยารักษาโรค แต่ปัจจุบันกัญชาถูกนำมาใช้เพื่อทางการแพทย์ ซึ่งถูกนำไปสกัด ทำให้ลดคุณประโยชน์ของกัญชาจากเดิมไปมาก ซึ่งมันไม่ใช่มิติเดิมในการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค และกัญชาเพื่อสันทนาการ และตนมองว่าระเบียบต่างๆยังถูกปิดกั้นจากทางภาครัฐอีกมาก ซึ่งสะท้อนอำนาจรัฐทางด้านความคิด


โกดำ นาย อร่าม ลิ้มสกุล ปราชญ์ด้านกัญชาไทย กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนดีใจที่มีคนเข้าใจว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เหมือนกับที่พยายามต่อสู้มากว่า 30ปี กัญชาไม่ได้มีอันตรายถ้าเราใช้ให้ถูกกับชีวิต คนที่สูบกัญชาทำให้มีสติ และเป็นวิถีดั้งเดิมมาจากรุ่นสู่รุ่น เลยอยากผลักดันให้มีการปลดล็อคกัญชาเสียที
นอกจากนี้ ก็ยังมีหมอคิง นายศุภวุฒิ ตัญบุญยกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวท ที่บอกว่า กัญชาสายพันธุ์ไทย ถือเป็นยาอายุวัฒนะ มีประโยชน์ตั้งแต่ยอดยันราก จึงจำเป็นต้องอนุรักษ์ไว้ และมีผู้เข้าร่วมอีกหลายคน คือ นายสนธยา แซ่โย้ ผู้ประสานงานกองทุนรักษาผู้ป่วยฟรี พูดถึงประเด็นการขออนุญาตในการปลูกกัญชา ทำไมไม่เปิดให้ขอได้ในระดับชุมชน เหมือนเป็นการถูกจำกัดพื้นที่ หมายถึงส่งผลให้ชาวบ้านถูกจำกัดสิทธิ์ในเรื่องการรักษาอย่างเท่าเทียม


เจ้าขวัญคิตตี้ ช่อผกา พูดคุยถึงประเด็นกฎหมาย และสิทธิ์ในการปลดล็อก และการปลูกกัญชา ซึ่งอยากให้สหายสายเขียวทั้งหลายได้ทำความเข้าใจให้ดีไม่นั้นจะกลายเป็นการถูกแกง และเป็นความเข้าใจผิดๆส่งต่อความเข้าใจผิดๆต่อไป สำหรับโลกของกัญชาในปัจจุบันไปไกลมาก ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมาย หรือเป็นการเปิดเสรีให้มีการปลูก และมีการซื้อขายกันได้อย่างถูกกฎหมาย
และตัวแทนภาคระชาชน อย่างนายไรวิน เดชะ คนในพื้นที่ จ.นราธิวาส เคยเป็น1 ในตัวแทนผลักดันการปลูกกัญชา6 ต้น เล่าว่าที่ผ่านมา ตนชอบแจกกัญชาให้ชาวบ้านเพื่อนำไปใช้เป็นยารักษาโรค เป็นตัวแทนภาคประชาชนที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าที่จะต่อสู้กับความถูกต้องเพื่อเป็นตัวแทนชาวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันกัญชาที่จะนำมาใช้เป็นยารักษาโรคในผู้ป่วย ที่มีความจำเป็นต้องใช้ ตนต่อสู้เรื่องกัญชามา10ปี ถูกจับดำเนินคดีไป 22 ครั้ง แต่ยังยืนยันในความตั้งใจเหมือนเดิม

นอกจากนี้ภายในงาน ยังมีการออกร้านขายของ ของเหล่าบรรดาสายเขียว มีการจัดวางจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชาอีกมากมาย.

ปิดทำการ “โรงพยาบาลสนาม-ศูนย์น้ำใจคนเมืองลุง” รอบที่ 2 อย่างเป็นทางการ

หลังเปิดมาแล้วเป็นระยะเวลา 142 วัน รวมผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการดูแลรักษาสะสม 1,831 คน โดยทั้งหมดได้รับการรักษาหายเป็นปกติอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่รวมพลังช่วยเหลือ สนับสนุนอย่างเต็มกำลัง จนสามารถส่งตัวผู้เข้ารับการรักษาออกจากโรงพยาบาลสนามกลับบ้านทั้งหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2564

ตามที่มหาวิทยาลัยทักษิณ และหน่วยปฏิบัติการ อว.ส่วนหน้า จังหวัดพัทลุง ร่วมมือกับองค์กรภาคีในจังหวัดพัทลุง จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์น้ำใจคนเมืองลุง” ณ สำนักส่งเสริมการบริการวิชาการและภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ พื้นที่พนางตุง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 142 วัน รวมผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1,831 คน โดยทั้งหมดได้รับการรักษาอย่างปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลสนามทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2564 มหาวิทยาลัยทักษิณ และหน่วยปฏิบัติการ อว.ส่วนหน้า จึงขอปิด“โรงพยาบาลสนาม-ศูนย์น้ำใจคนเมืองลุง” ณ สำนักส่งเสริมการบริการวิชาการและภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่บัดนี้

        มหาวิทยาลัยทักษิณ และองค์กรภาคี ขอขอบคุณอย่างจริงใจในพลังความร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนในทุกวิถีทางต่อความพยายามทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจากทุกฝ่าย ในการหยุดยั้งการระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 และการพยายามเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมวิถีใหม่ที่ปลอดภัย

ภายใต้ปณิธาน “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคม” มหาวิทยาลัยทักษิณ จักยืนยันเจตนาเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมฝ่าฟันวิกฤตการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมในการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูสังคมและชุมชน การเผยแพร่ ต่อยอดผลงานสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์เชิงสังคม การถ่ายทอดเทคโนโลยีป้องกันโรค การรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพและการรับวัคซีนผ่านนวัตกรชุมชน การจัดทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมแบบบูรณาการ และพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามอีกครั้ง หากเข้าสู่สถานการณ์ที่จำเป็น.

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการสังกัด สพม.พัทลุง

ประกาศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง

เรื่อง  ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการสังกัด

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง

ตามประกาศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง ลงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน   พ.ศ ๒๕๖๔  เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง จำนวน ๕ อัตรา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง ดำเนินการรับสมัครด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน – ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๔ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ นั้น

                    ในการนี้ การดำเนินการรับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกฯ ได้เสร็จสิ้นแล้วจึงประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิและไม่มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง ตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ และประกาศรายละเอียดให้ ผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกทราบและถือปฏิบัติ

ประกาศรายชื่อผุ้มีสิทธิ์สอบ

รายละเอียดเพิ่มเติม https://seapt.go.th/employeeslist71264/