ชาวบ้านออกหาปลาแต่กลับเจอลูกระเบิดแทน

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.พัทลุง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณ ภายในสวนยางของ นายสมบูรณ์ บัวมา พื้นที่ ม.7 ต.เขาชัยสน รอยต่อ ม.10 ต.โคกมวง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ออกหาปลาในพื้นที่ดังกล่าวว่า พบวัตถุคล้ายระเบิด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่า เป็นลูกระเบิด ชนิดสังหาร แบบ M 26 อยู่ในลักษณะพร้อมใช้งาน ก่อนกันพื้นที่ และเร่งเก็บกู้ทำลาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่นำมาทิ้งไว้ หรือไม่ก็เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ออกลาดตระเวน กลัวความผิดจึงนำมาทิ้งไว้ อีกอย่างในพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มวัยรุ่นติดยาเสพติดหลายรายคาดเก็บไว้เพื่อข่มขู่ฝั่งตรงข้ามหรือด้วยความคึกคะนอง

จากการสอบถามชาวบ้านที่พบ และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ทราบว่า ในระหว่างที่ตนออกหาปลา ก็พบวัตถุดังกล่าว ด้วยความสงสัยตนยังเอาเท้าไปเขี่ยดู แต่ปรากฏว่าวัตถุดังกล่าวมีลักษณะแข็งและคล้ายมีน้ำหนักจึงคิดว่าน่าจะเป็นระเบิดแน่นอน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบทันที.

#ที่นี่พัทลุง

น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมือง เอ่อท่วมสูงหลายตำบลบางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร

คืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดพัทลุงภาพรวมถือว่าคลี่คลายลง แต่บางพื้นที่ของอำเภอเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ ตำบลปรางหมู่ ตำบลชัยบุรี ตำบลพญาขัน และลำปำ น้ำเอ่อท่วมสูงในหลายจุด เนื่องจากเป็นที่ลุ่มต่ำ บ้างก็เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากเป็นจุดรับน้ำที่ไหลหลากลงมาจากพื้นที่อำเภอกงหรา และอำเภอศรีนครินทร์ ก่อนมวลน้ำดังกล่าวจะไหลลงสู่ทะเลสาบ

ตลอดทั้งคืนที่ผ่านจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ 3 ธันวาคม 2564 ฝนได้หยุดตก ทำให้พื้นที่ในหลายตำบลของอำเภอกงหรา และอำเภอศรีนครินทร์ ระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และหากในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอดังกล่าว ไม่มีฝนตกลงมาช่วงนี่น้ำที่ท่วมก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ

ส่วนพื้นที่รับน้ำก่อนมวลน้ำไหลลงสู่ทะเลสาบ น้ำได้ท่วมขยายวงกว้างในแต่ละตำบล บ้านเรือนประชาชนถูกนำท่วมขัง จำนวนหลายร้อนครัวเรือน พื้นที่การเกษตรก็ถูกน้ำท่วมโดยเฉพาะนาข้าวทั้ง 4 ตำบลดังกล่าวกว่า 10,000 ไร่ นอกจากนั้นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลปรางหมู่ บ้านหนองปริง ระดับน้ำท่วมสูงถึง 2.5 เมตร ชาวบ้านที่อยู่ภายในจำนวน 6 ครัวเรือน เดือดอย่างหนัก บ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงพื้นบ้าน แม้ตัวบ้านจะมีการยกพื้นสูงแล้วก็ตาม บางบ้านก็ไม่ได้เตรียมพร้อมเรื่องอาหารการกินไว้เลย เนื่องจากในปีนี้น้ำได้มาเร็วและมีปริมาณมาก

ขณะที่ภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ถือว่าคลี่คลายลง น้ำที่ท่วมในหลายอำเภอ หลายหมู่บ้าน ของอำเภอที่อยู่ริมเทือกเขาบรรทัด ลดลงชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือน ส่วนที่บริเวณรีสอร์ท ในตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก ไปเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 1 ธันวาคม ต่อถึงเช้าวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้น คนงานพร้อมชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ช่วยเหลือ เก็บกวาดสิ่งที่ได้รับความเสียออกพื้นที่แล้ว.


ทีมข่าว #ที่นี่พัทลุง

หินพังหล่นทับกุฏิพระพังยับ ส่วนพระโดนหินทับเสียชีวิตคาซากกุฏิ ชาวบ้านเชื่ออาจเกิดจากเหตุอาเพศ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ

เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 2 ธันวาคม 64 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุงพร้อม เจ้าหน้าที่กำลังอาสาสมัครกู้ภัยพัทลุงได้รับแจ้งจากชาวบ้านทางโทรศัพท์ว่าเกิดเหตุเขาพัง หินก้อนใหญ่หล่นทับกุฏิพระ และคาดว่าพระมหาจรัญ บุญสุวรรณ อายุ 71 ปี ยังคงติดอยู่ใต้ซากกุฏิ เพราะได้เดินมาตะโกนเรียกแล้วหลายครั้งแต่ไร้เสียงตอบรับ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมชุดเครื่องเลื่อยยนต์เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริวณริมเชิงเขา ม.11 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อไปถึงปรากฎว่ากุฏิพระรูปดังกล่าว ตั้งอยู่ริมเชิงเขาเมือง ต้องเดินเท้าเข้าไปจากถนนประมาณ 200 เมตร ซึ่งทางที่ต้องเดินเท้าผ่านเข้าไป และเต็มไปด้วยโคลนตมกับก้อนหินก้อนใหญ่ 3-4 ลูกที่ตกจากเขา สังเกตุไปตรงกุฏิ ปรากฎว่ากุฏิหลังดังกล่าวโดนหินและต้นไม้หล่นทับจนพังเสียหายทั้งหมด จึงใช้มีดพร้าฟันหญ้าและใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่ทับหลังคาอยู่ เพื่อช่วยค้นหาร่างของพระมหาจรัญ ฯ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาน 40 นาทีก็พบร่างของพระมหาจรัญฯ โดนต้นไม้ล้มทับหลังคาเสียชีวิตอยู่ใต้ซากกุฏิ

เจ้าหน้าที่ร้อยเวรสั่งการให้ จนท.กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาด้านล่าง ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากที่รอดูกันอยู่ เพื่อถ่ายภาพเป็นหลักฐานและส่งต่อให้แพทย์ รพ พัทลุงชันสูตรเพิ่มเติมที่ รพ.พัทลุง ต่อไป

ด้านพระมหาจรัญ ฯ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน บ้านเลขที่ 81 ถ.คูหาสวรรค์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง บวชเป็นพระอยู่ประจำวัดคูหาสวรรค์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และย้ายมาอยู่ที่กุฏิแห่งนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว เป็นพระที่ชาวบ้านเคารพนับถือศรัทธา ทั้งชาวบ้านในพื้นที่พัทลุงและต่างจังหวัด เช่น อ.หาดใหญ่,นครศรีฯ,สุราษฎร์ธานี,และปัตตานี ฯลฯ ต่างพากันมาทำบุญ ใส่บาตร อยู่เป็นประจำ

สอบถามนายวิเชียร ดำทองอายุ 71 ปี เจ้าของบ้านหลังที่อยู่ใกล้กับกุฏิพระหลังดังกล่าวได้เล่าว่า “เมื่อเวลาประมาน 22.30 น. ตนได้ยินเสียงดังสนั่นมาก ตอนแรกคิดว่าเสียงฟ้าร้อง พอออกไปดูก็พบว่าหินก้อนใหญ่มากกลิ้งลงมาจากเขาเมือง จนสะเก็ดหินกระเด็นโดนหลังคาบ้าน กระเบื้องแตกไปหลายแผ่น เมื่อเสียงเงียบจึงออกมาดูและรีบวิ่งไปที่กุฏิของพระมหาจรัญ ฯ แต่ภาพที่ตนเห็นคือกุฏิพังยับเยิน จึงตะโกนเรียกแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ จึงโทรแจ้งกู้ภัยเข้าช่วยตรวจสอบค้นหาดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ร้ายแรง เพื่อเตือนให้รู้ว่าจะเกิดเหตุอาเพศต่อจังหวัดพัทลุงหรือไม่ก็เป็นได้ ไม่ใช่แค่ภัยตามธรรมชาติเพียงเท่านั้น.

รถไฟชนคนเดินเท้าเสียชีวิต

เมื่อช่วงเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าตรวจสอบบริเวณรางรถไฟ หน้าโรงเรียนเทศบาลวัดนิโครธาราม หรือ โรงเรียนเทศบาล 3 หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบร่างชายวัย 49 ปี ถูกรถไฟชนเสียชีวีต
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างของนาย ยรรยง กิตติวินิต อายุ 49ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 64 หลังตลาดเพียรยินดี ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่จึงประสานญาติมาดูจุดที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมักดื่มเหล้าเป็นประจำทุกวัน ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของทางญาติที่ให้ข้อมูล

นาง ขาเซี้ยม กิตติวินิต อายุ 76ปี ซึ่งเป็นอาของคนตาย เล่าว่า ปกติคนตายจะไปช่วยขายของที่ร้านบริเวณตลาดสดอยู่บ้างแต่ก็นานๆครั้ง แต่มีนิสัยติดเหล้า ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 10 วันก็ได้ไปช่วยตนขายของที่ร้าน หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอกับคนตายอีกเลย จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าคนตายถูกรถไฟชนจนเสียชีวิต ทางญาติก็ไม่ได้ติดใจในประเด็นการเสียชีวิต เพราะเบื้องต้นก็ยังไม่ทราบว่าทางผู้ตายจงใจไปให้รถไฟชน หรือแค่เมาแล้วพลาดจนถูกชนเสียชีวิตกันแน่

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง ก็ได้นำร่างคนตาย ไปชันสูตรเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด ก่อนนำร่างให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.

รวบอดีต ตร.ที่ผันตัวมาเป็นมือปืนรับจ้าง หลังหนีคดีนานถึง 13 ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน3 ภาค9 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ชุดการข่าว กอ.รมน.ตามรวบอดีตตำรวจ ที่ผันตัวเองมาเป็นมือปืนรับจ้าง หลังก่อเหตุฆ่าคนตายในพื้นที่ย่านตาขาว จ.ตรัง เมื่อปี 2549 จนกระทั่งศาลอนุมัติออกหมายจับ และถูกตามรวบได้คาร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังผู้ต้องหาหลบหนีคดีนานถึง 13 ปี


นายธนโชติ อินทรสระ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเป็นอดีตข้าราชการตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ เนื่องจากพบว่ามีส่วนพัวพันกับคดีฆ่าในพื้นที่ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังจากก่อเหตุก็หนีมากบดานอยู่กับแฟนสาวในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยเปิดร้านอาหารบังหน้า โดยนายนายธนโชติฯ ผู้ต้องหา ทำหน้าที่เป็นพ่อครัวอยู่ในร้านอาหารดังกล่าว ไม่ค่อยจะออกไปไหน จนสามารถหลบหนีคดีอยู่ได้นานถึง 13 ปี แต่สุดท้ายจนมุมเจ้าหน้าที่จนได้ ถูกจับในความผิดฐาน มีความผิดต่อชีวิต พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหา นำส่งศาลจังหวัดตรังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คืบหน้าน้ำท่วมพัทลุง ล่าสุด จนท.ฝายนาท่อมเร่งบรรจุกระสอบทรายเพื่อนำไปวางกั้นแนวกันตลิ่งพัง

สถานการณ์น้ำท่วมโดยรวมในพื้นที่ของ จ.พัทลุง ตั้งแต่ช่วงเช้าฝนได้หยุดตก แต่ระดับน้ำในหลายพื้นที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น หนักสุด ได้แก่ พื้นที่ของ ต.คลองเฉลิม ต.ชะรัด อ.กงหรา และ อ.ศรีบรรพต เนื่องจากทางฝายนาท่อม และฝายท่าแนะ ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำเร่งระบายน้ำออก เพราะน้ำในฝายมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วมาก หากไม่มีการระบายน้ำออกจะส่งผลให้ฝายกันน้ำพังและส่งผลกระทบระยะยาวกับชาวบ้านที่อยู่ปลายน้ำได้ ซึ่งทางฝายนาท่อมได้มีการเปิดประตูระบายน้ำไปตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา และได้มีประกาศแจ้งเตือนให้กับชาวบ้านที่อยู่ปลายน้ำอย่างในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี ของ อ.เมืองพัทลุงได้รับทราบ เพื่อเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่จะไหลลงสู่ด้านล่างเรียบร้อยแล้ว

ด้านเจ้าหน้าที่ของฝายนาท่อมหลายชีวิต ก็เร่งระดมกำลังช่วยกันบรรจุกระสอบทราย จำนวน 1 พันกระสอบ เพื่อนำไปวางตรงประตูระบายน้ำคลองลำเบ็ด เพื่อกั้นแนวป้องกันตลิ่งพัง เนื่องจากระดับน้ำที่ยังคงสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนระดับน้ำที่หลากเข้าท่วมถนนสายหลักอย่างเช่น ถนนเพชรเกษมสายพัทลุง_ตรัง ขณะนี้ระดับน้ำลดลง รถสามารถวิ่งได้ปกติ แต่ยังคงมีป้ายเตือนสัญญาณเตือนน้ำท่วมตลอดเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังอยู่ และอีกจุดคือบริเวณสี่แยกโพธิ์ทอง อ.ควนขนุน ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการพร่องน้ำจากฝายท่าแนะด้วย แต่รถยังผ่านสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นในการขับขี่ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ควนขนุน คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอดเส้นทาง

สำหรับชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว มี 3 อำเภอ คือในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ศรีบรรพต และ อ.ควนขนุน นอกจากนี้ก็มีสวนผลไม้ สวนยางพารา ถูกน้ำท่วมขังแล้วด้วยเช่นกัน.

ทีมข่าว #ที่นี่พัทลุง

จับปลาในบ่อส่งขาย เจอดุกลายด่าง เจ้าของขอเก็บไว้เข้ากระแสลายด่างฟีเวอร์

นายประวิก เนีมวงค์ เจ้าของผู้จัดการวิทยาพันธุ์ปลา อยู่ที่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 3 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ได้ว่าจับปลาดุกบิ๊กอุยส่งขายจำนวน 2 ตัน และพบปลาดุกบิ๊กอุยลายอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนปะปนอยู่ด้วยจำนวน 1 ตัว จึงได้แยกนำไปขังเลี้ยงไว้ที่บ้าน เป็นปลาดูกบิ๊กอุยลายสีเทา ขาวและสีดำ น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม อายุประมาณ 4 เดือน และเป็นปลาที่สมบูรณ์อ้วนพีกินอาหารตามปกติ

นายประวิก เนียมวงค์ เผยว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา คนงานบ่อปลาประมาณ 10 คน ได้ช่วยกันจับปลาขึ้นจากบ่อเพื่อส่งขายให้ลูกค้าจำนวน 2 ตันเศษ และขณะที่นำปลาขึ้นจากบ่อ พบว่ามีปลาดุกบิ๊กอัย 1 ตัว มีสีลายผิดปกติ จึงได้แยกออกจากพวก นำมาขังไว้ที่บ้าน เมื่อสังเกตดูก็พบว่าเป็นปลาที่สวยงามและไม่เคยพบมาก่อน เมื่อจับขึ้นจากน้ำนำมาวางบนโต๊ะ ปลาดุกลายก็จะนอนนิ่ง สามารถใช้มือจับและพลิกท่านอนคว่ำนอนหงายได้ ปลาดุกบิ๊กอุยลายก็จะไม่ดิ้น เมื่อนำไปปล่อยลงน้ำก็จะว่ายน้ำกินและอาหารตามปกติ

นายประวิก กล่าวอีกว่า ทำธุรกิจผสมพันธุ์ปลาดุกและเลี้ยงปลามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 มีบ่อเลี้ยงปลา จำนวน 24 บ่อ เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ เลี้ยงปลาดูกแต่ละรอบก็มากกว่า 500 ตัน ก็ยังไม่เคยพบว่ามีปลาดุกบิ๊กอุยลาย แต่ถ้าเป็ฯปลาเผือกสีขาว ตาแดงก็พบอยู่บ่อยๆ สำหรับลูกปลาที่นำมาเลี้ยงในบ่อก็ผสมขึ้นมาเอง ซึ่งไม่ทราบว่ามีปลาดุกบิ๊กอุยลายเกิดขึ้นได้อย่างไร ถือว่าเป็นปลาดุกที่แปลกและสวยงามเป็นตัวเดียวในจำนวนหลายร้อยล้านตัวที่เลี้ยงจับขายมาแล้ว สำหรับปลาตัวนี้ เมื่อออกมาเป็นปลาที่มีลายสวยงาม ก็จะจัดสถานที่เลี้ยงให้เขาอยู่คู่บ้านตลอดไป

สำหรับปลาดุกลายตัวนี้หลังจากที่คนงานนำขึ้นมาจากบ่อ เหล่าคนงานก็ได้พยายามดูอย่างละเอียดที่จุดลายของตัวปลา บางคนก็นำไปตีเป็นตัวเลข เสี่ยงโชคในวันนี้

ประชาชนออกมาใช้สิทธิเกินเป้าที่ตั้งไว้

ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ จ.พัทลุง ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็ไม่เป็นอุปสรรคในการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กกต.ชี้ครั้งนี้คนออกมาใช้สิทธิเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

สำหรับ จ.พัทลุง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้งหมดจำนวน 159,705 ราย มีสิทธิ์เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 159,652 ราย มีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 300 หน่วยเลือกตั้ง ครอบคลุมพื้นที่ จำนวน 24 อบต. บรรยากาศโดยรวมทุกหน่วยเลือกตั้ง ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด

พื้นที่การเลือกตั้งที่มีการเฝ้าจับตามอง ได้แก่ อบต.เขาปู่ ของ อ.ศรีบรรพต อบต.พนมวังก์ ของ อ.ควนขนุน อบต.เกาะหมาก ของ อ.ปากพะยูน อบต.หนองธง ของ อ.ป่าบอน และ อบต.ชัยบุรี ของ อ.เมือง ซึ่งก่อนหน้าก็มีหนังสือร้องเรียนผ่าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ว่าผู้นำในพื้นที่ ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง วางตัวไม่เป็นกลางใช้อำนาจตำแหน่งบังคับหาเสียงให้ทางผู้สมัครบางราย โดยทางผู้ร้องเรียนอ้างว่า มีการให้หัวคะแนนไปเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านไว้ เพื่อซื้อเสียงก่อนวันเลือกตั้ง ส่วนข้อเท็จจริงกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง

ส่วนผลนับคะแนน คาดว่าไม่เกิน 1 ทุ่มคืนนี้ ผลอย่างไม่เป็นทางการหน้าหน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วยคงแล้วเสร็จ.

ผู้การฯพัทลุงตั้งรางวัลนำจับผู้ต้องหาบุกยิงถล่มคนงานตัดหญ้า 50,000 บาท

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธขนาด .38 ยิงใส่คนงานตัดหญ้าโคเนื้อ ซึ่งกำลังนำปุ๋ยไปใส่ในบริเวณแปลงหญ้า ท้องที่หมู่ที่ 2 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จนทำรถพ่วงสามล้อ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 2 จุด โดยเหตุเกิดในบริเวณแปลงหญ้าเนเปียร์ที่ส่งจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โคเนื้อทั้งในและต่างจังหวัดของ นายวิรัตน์ คงหวัง อดีตนายกเทศบาลตำบลลานข่อย อ.ป่าพะยอม ซึ่งเป็นแปลงหญ้ารายใหญ่ของจังหวัดพัทลุง โดยก่อนหน้านี้คนร้ายคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนและอาวุธสงคราม ชนิด เอ็ม 16 ยิงถล่มกลุ่มคนงานรวมทั้งนายนิภพ สุขาชื่น อายุ 39 ปี ชาวตำบลท่าเรือ. อ.เมืองนครศรีธรรมราช คนงานในแปลงหญ้าดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 3 เหตุเกิด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

ล่าสุดศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายจับ นายณัฐยศ สีราม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 2 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ตามหมายจับที่ จ.414/2564 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น ทำให้เสียทรัพย์ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ขณะนี้นายนายณัฐยศ ฯได้หลบหนีออกต่างจังหวัดแล้ว โดยทาง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม ได้ส่งตำรวจฝีมือดีออกไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหารายนี้แล้ว รวมทั้งวางมาตรการการเฝ้าระวังในการกลับมาก่อเหตุร้ายของผู้ต้องหารายนี้ในครั้งที่ 3 แล้วเช่นกัน

ทางด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า เนื่องจากผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน และสร้างความหวาดกลัวกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม โดยไม่หวั่นเกรงกฎหมายรัฐ ดังนั้น ตนจึงได้ตั้งรางวัลนำจับนายณัฐยศ สีราม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 2 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เป็นเงินสด 50,000 บาท ซึ่งจะจ่ายเงินแก่พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสโดยทันทีหลังจากที่จับกุมตัวนายณัฐยศฯได้ ดังนั้น พากพลเมืองดีรายใดพบแหล่งที่อยู่ของนายณัฐยศฯ ก็ขอให้แจ้งได้ที่ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง โทร.092-8919561 โดยทางตำรวจจะปกปิดเรื่องดังกล่าวเป็นความลับ.

คนร้ายขับเก๋งใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้าน เจอยิงสวนรถพรุนทิ้งรถหนีเอาชีวิตรอด

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 26 พ.ย.64 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยศวรรธ กระจ่างวงศ์ ผกก.สืบสวน ภจ.ว.พัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง และ นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้าย ใช้รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านพัก ของนายประกาย สงหล่อ อายุ 61 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่เข้าที่บริเวณกระจกบ้าน ฝาผนัง และบริเวณหลังคาเป็นรูพรุนหลายแห่ง และห่างจากบ้านไปประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีบร์อนเงิน ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน คาดว่าเป็นรถของคนร้ายจอดนิ่งอยู่ เบื้องต้นตำรวจพบปลอกกระสุนปืนสงครามตกอยู่บริเวณด้านหน้าที่นั่งคนขับ จำนวนหนึ่ง ส่วนที่นั่งด้านหลังของรถเก๋งคันดังกล่าว ตร.พบป้ายทะเบียน กง-1042 ตรัง วางอยู่จำนวน 2 ป้าย จึงนำไปตรวจสอบว่าเป็นป้ายทะเบียนจริงหรือทะเบียนปลอม

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ยศวรรธ์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุงพร้อม จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้นพบว่าภายในรถเก๋งคันดังกล่าวบนที่นั่งด้านหน้าข้างซ้าย ตรวจพบแม็กบรรจุกระสุนปืน เอ็ม 16 ตกอยู่ 1 ซอง ภายในบรรจุกระสุนปืน เอ็ม 16 ส่วนบนเบาะที่นั่งคนขับ ตำรวจพบแม็กชีน บรรจุกระสุนปืน ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และปลอกกระสุนปืนอาวุธสงคราม เอ็ม 16 ตกอยู่ 5 ปลอก ปลอกกระสุนปืนสงครามชนิดอาก้าตกอยู่ จำนวน 2 ปลอก จึงนำไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ในส่วนของสภาพรถเก๋งคันดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าที่บริเวณกระจกประตูด้านหลังด้านซ้ายกระสุนทะลุไปยังที่นั่งคนขับด้านขวา จำนวน 6 รู กระจกหน้าด้านขวา 1 รู และบริเวณไฟหน้าด้านซ้าย 1 รู

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ในช่วงคนตกหนักนั้นได้มีกลุ่มคนร้าย 3 คน ขับรถยนต์คันดังกล่าวมายังบ้านเกิดเหตุ จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามทั้ง 2 ชนิด อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงถล่มบ้านพักหลังดังกล่าว จึงถูกนายประกายฯเจ้าของบ้านยิงสวนด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดจำนวนหลายนัด กลุ่มคนร้ายจึงขับรถหนีแต่มาเจอซอยตันกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 คน จึงได้ทิ้งรถเก๋งหลบหนีไป.